วก.พุทธมณฑล จัดกิจกรรมเน้นย้ำศาสตร์พระราชาปลูกปอเทืองพัฒนาดินวิถีแห่งความพอเพียงฯ

        วันที่ 24 กพ.64ไปที่วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล(วก.พุทธมณฑล) 99 ถ.ประชาอุทิศ ตำบล คลองโยง อำเภอพุทธมณฑล นครปฐม 73170 ไปกับคุณสุนันทา พลโภชน์ อดีตผอ.กลุ่มงานประชาสัมพันธ์นำงานงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)รวมทั้งผู้สื่อข่าวอีกหลายคนโดยผู้อำนวยการนาง ณชนกพรหมพร  บุญชูศรีเชิญไปในโครงการพัฒนาเชิงปฏิบัติการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการดำเนินชีวิต โดครงการFix it จิตอาสาซ่อมสร้างเพื่อชุมชนร่วมเป็นกำลังป้องกันภัยพิบัติในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 มีเปิดหลักสูตรระยะสั้นที่จะก่อประโยชน์ต่อนักเรียนนักศึกษาและชาวชุมชนที่สนใจคือการเรียนการสอนการฉาบปูนสไตล์ล็อฟท์โดยนายอำเภอพุทธมณฑลนางสาวสลารีวรรณ  ทัพทวีเป็นประธาน

         

         พูดถึงผอ.ณชนกพรหมพรเรียกชื่อเล่นว่าผอ.เจี๊ยบเท่าที่พอจำได้ไปดำรงตำแหน่งผอ.ที่วิทยาลัยนี้ไม่นานแต่จากปรากฏเป็นข่าวคราวต่อเนื่องมาดูจะลุยงานพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนทั้งความรู้สามัญกับความรู้ความเชี่ยวชาญวิชาชีพเป็นคุณูประโยชน์แก่นักเรียนนักศึกษาทุกประเภทรวมไปถึงชาวชุมชนในระแวกอำเภอพุทธมณฑลและใกล้เคียงด้วย คุณูประโยชน์ที่ปรากฏชัดในการจัดการเรียนการสอนคือระบบการเรียนรวมระหว่างนักเรียนปรกติกับนักเรียนผู้พิการทางการได้ยินนำไปสู่การการพัฒนาทั้งการเรียนสามัญสายอาชีพจนสร้างทักษะความเชี่ยวชาญคู่ขนานกันไปอย่างเสมอภาคจบไปแล้วมีงานทำมีอาชีพมีรายได้ทั้งผู้เรียนปรกติกับผู้เรียนพิการทางการได้ยิน มีสำนึกจิตอาสามีความเกื้อกูลกันรู้จักให้แบ่งปันกัน อีกทั้งยังเป็นพลังเกื้อกูลสังคมที่เกิดเพราะความรักความเมตตากันเป็นแบบอย่างที่ดีแก่กันและกันด้วยเพราะผอ.ณชนกพรหมพรนั้นเน้นย้ำน้อมนำศาสตร์พระราชาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตรเป็นประทีปนำทางหล่อหลอมครูอาจารย์นำปลูกฝังเยาวชนสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นคนดีของสังคมท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดโควิด-19

         

       น่าจะเกินสิบปีแล้ว ผอ.ณชนกพรหมพร เคยเป็นรองผู้อวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ซึมซับแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯ แล้วก็ไปเป็นรองผอ.ในอีกหลายวิทยาลัยได้น้อมนำหลักการดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริไปปลูกฝังนักเรียนนักศึกษาครูและบุคลากรของวิทยาลัยนั้นๆแล้วยังขยายผลไปถึงชาวบ้านชาวชุมชนรอบๆสถานศึกษาแล้วที่อื่นๆตามโอกาส ในการดำเนินชีวิตจริงเฉพาะตัว ในครอบครัวก็ยึดหลักการเดินตามแระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ย้ายไปเป็นผู้บริหารวิทยาลัยอื่นๆอีกก็น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯไปขยายผล กระทั่งมาเป็นผู้อำนวยการบริหารวิทยาลัยวก.พุทธมณฑลแห่งนี้ก็ทุ่มเทชีวิตจิตสำนึก ทุ่มเทเวลาให้กับวิทยาลัยให้กับเยาวชนให้กับชุมชน เฉพาะอย่างยิ่งมาบริหารวิทยาลัยท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19 แต่ดูเหมือนไม่ได้เป็นขวากหนามที่จะสนองพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 สร้างคนดีให้บ้านเมือง ให้มีงานทำ ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสนองพระราชปณิธานสืบสาน  รักษา  ต่อยอดพระราชดำริปลูกฝังหลักเศรษฐกิจพอเพียงในสำนึกเยาวชนเป็นเครื่องมือเพื่อดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันได้ในสังคมอย่างมีความสุขแบบพออยู่พอกิน ท่ามกลางไวรัสโควิด-19

เกริ่นไว้ข้างต้นว่าผอ.เจี๊ยบชวนไปสัมผัสกิจกรรมโครงการพัฒนาเชิงปฏิบัติการน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติจริงในการดำเนินชีวิต มีนางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี นายอำเภอพุทธมณฑล เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาชิงปฏิบัติการน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ผ่านโครงการ Fix it จิตอาสาป้องกันภัยพิบัติในสถานการณ์Covid-19 โครงการหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น (กิจกรรมการฉาบปูนสไตล์ ลอฟท์) และการพัฒนาอาชีพเกษตรผ่านการรวมพลังของครูอาจารย์นักเรียนนักศึกษาปลูกปอเทืองพืชสดพัฒนาดินตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่นับเป็นภาพแห่งการเกื้อกูลกันที่น่าชื่นชมระหว่างฝ่ายบริหารพื้นถิ่นที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างนายอำเภอและผู้บริหารสถานศึกษาวก.พุทธมณฑลให้การเกื้อกูลกันและกันเป็นที่หวังที่พึ่งของประชาชนพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะร่วมกันสร้างคนดีให้ท้องถิ่น ให้บ้านเมือง  สร้างเยาวชนให้เติบโตเป็นคนดีมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพที่กำลังเรียนในสถานศึกษาอาชีวะเติบโตเป็นกำลังพัฒนาประเทศชาติ ให้สังคมไทยเจริญงอกงามตามวิถีแห่งความดีงามตามวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม

         

        วก.พุทธมณฑลเป็นสถานศึกษาสายวิชาชีพหนึ่งในจำนวนไม่มากแห่งนักที่จัดการเรียนการสอนให้กับเยาวชนทั้งที่ร่างกายปรกติและที่พิการเน้นทางการได้ยินได้เรียนสายอาชีพร่วมกัน เกื้อกูลกันเอื้อเฟื้อกันด้วยรักเมตตากันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้องโอบอุ้มกันสู่การมีความรู้มีทักษะเชี่ยวชาญการอาชีพที่สามารถเป็นเครื่องมือไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ในอนาคตหลังจบการศึกษาแล้ว รวมถึงช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมตามความเหมาะสมได้และดูเหมือนเป็นที่ยอมรับว่าวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในส่วนเยาวชนพิการทางการได้ยินสามารถเรียนจบไปอย่างมีคุณภาพทัดเทียมผู้เรียนปรกติ นำความรู้ความสามารถสู่การมีงานทำประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงตัวเองมีความสุขแบบพออยู่พอกินตามวิถีแห่งความพอเพียงได้อย่างมีความสุขยั่งยืน

นางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี นายอำเภอพุทธมณฑล กล่าวว่า การน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการดำเนินชีวิต มีความสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน นำไปสู่การสร้างความสุขให้กับตัวเอง ครอบครัวและชุมชนได้จริง แล้วนำไปใช้ในการปฏิบัติงานที่ทั้งเฉพาะตัวและทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะให้เกิดทั้งความสำเร็จและความสุขได้จริง จึงพูดได้เต็มปากว่าเป็นหลักปฏิบัติเพื่อพัฒนาประเทศ และพัฒนาคนเป็นพลเมืองดี โดยยึดหลักการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานความรู้ และเศรษฐกิจที่ไม่ปรกติ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ตามวิธีทรงงานของพระราชา โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา สร้างความรู้ จากการปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน และงานอาชีพสอดแทรกการพัฒนาคนตามศาสตร์พระราชา ต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากการฝึกฝนอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่แบ่งแยกทั้งในเมืองหรือในชุมชนท้องถิ่น

“ในส่วนของผลผลิตที่เกิดจากนักเรียนนักศึกษาของวิทยาลัยการอาชีพแห่งนี้จะนำไปสู่การขยายไปสู่ตลาดเมืองเป็นช่องทางในการส่งเสริมสร้างขวัญกำลังใจอีกทางหนึ่งซึ่งคาดว่าต่อไปจะเป็นจุดกระจายผลผลิตของเยาวชนอย่างยั่งยืนในอนาคตด้วย และหลักการดำเนินชีวิตด้วยอาชีพเกษตรที่วิทยาลัยปลูกฝังพื้นฐานให้กับเยาวชนโดยยึดแนวพระราชดำริอย่างเช่นการพัฒนาดินด้วยหลักธรรมชาติที่เป็นวัฒนธรรมของไทยมาแต่โบราณกาลและเป็นความดีงามต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติที่ดีงามโดยใช้หลักการปลูกปอเทืองเป็นปุ๋ยพืชสดพัฒนาดินด้วยการไถกลบเป็นการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อม ประหยัด ธรรมชาติเกื้อกูลกัน ก็จะนำขยายผลไปสู่คนเมืองเพื่อให้ร่วมกันตระหนักถึงการรวมพลังรักษาโลกร้อนด้วย”นายอำเภอพุทธมณฑลย้ำ

นางณชนกพรหมพร บุญชูศรี ผอ.วก.พุทธมณฑล กล่าวว่า วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา (สอศ.) เปิดสอนหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) มีการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีตั้งแต่ พ.ศ.2540 เป็นการจัดการศึกษาโดยอาศัยความร่วมมือกับสถานประกอบการเพื่อให้นักเรียนนักศึกษามีคุณภาพ มีทักษะ มีความรู้ ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริง และจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมระบบทวิภาคี 100%  ตามอัตลักษณ์วิทยาลัย สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ

“วิทยาลัย จัดกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศและนำพาประชาชนทั้งประเทศไปสู่โมเดล ประเทศไทย 4.0” โดยมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ขับเคลื่อนตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านกลไกล ประชารัฐโดยส่งเสริมให้ดำเนินโครงการพัฒนารูปแบบและยกระดับคุณภาพศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it center Thailand 4.0) เพื่อเสริมสร้างให้นักเรียน นักศึกษาได้ปฏิบัติงานจริง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสถานศึกษากับชุมชนโดยจัดโครงการพัฒนาเชิงปฏิบัติการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างกิจกรรมวันนี้มีกิจกรรมสร้างรากฐานอาชีพเกษตรกรรมโดยพื้นฐานการพัฒนาดินตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่โดยปลูกปอเทือง ดอกไม้แห่งความจงรักภักดี หนึ่งในพระราชดำริ เพื่อปรับปรุงดิน เป็นศาสตร์พระราชาที่น้อมนำมาปลูกฝังให้เยาวชนนำสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน กิจกรรมโครงการ fix it จิตอาสาป้องกันภัยพิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคCOVID-19 และโครงการหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น (กิจกรรมการฉาบปูนสไตล์ ลอฟท์) เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะพื้นฐานในการปฏิบัติงานจริง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเองในการจะใช้เป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักได้อย่างยั่งยืน ที่อยากจะย้ำให้เห็นถึงความพิเศษที่วิทยาลัยมุ่งมั่นทุ่มเทคือเปิดโอกาสเฉพาะแก่เยาวชนผู้พิการทางการได้ยินได้ร่วมเรียนไปพร้อมกับเพื่อนๆที่ร่างกายปรกติทั้งในระบบปรกติและทวิภาคี100% มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือตัวเองดำเนินชีวิตสร้างฐานะครอบครัวด้วยลำแข้งตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระแก่สังคม รวมทั้งสามารถเกื้อกูลสังคมได้ตามวาระโอกาส และเพื่อเปิดทางให้ผู้เรียนมีโอกาสเลือกอาชีพที่สนใจมากขึ้นจึงเตรียมเปิดการสอนสายอาหารและโภชนาการอันเป็นการสนองพระบรมราโชบายรัชกาลที่10 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ” ผอ.นางณชนกพรหมพร บุญชูศรี กล่าว

          กิจกรรมที่ร่วมสร้างทางเลือกให้กับนักเรียนนักศึกษาในวันนี้คือภาคเอกชนอย่างอาชีพการฉาบปูนสไตล์ล็อฟท์โดยบริษัทควิกโคท  โปรดักส์ จำกัด(Cuick Coat Products  Co.,Ltd.)ที่เสนอการให้ทางเลือกอาชีพการฉาบปูนยุคสมัยใหม่ที่วัสดุฉาบที่ไม่ยุ่งยากในขั้นตอนและประหยัด  รวมไปถึงการนำก้าวสู่การฉาบทั้งผนังและวัสดุอื่นเช่นกระถางทุกชนิดประเภทโดยจำกัดแนวทางแห่งศิลปะนำองค์ความรู้วิธีการฉาบรวมถึงนำวัตถุดิบคือปูนล็อฟท์ไปให้ได้ทดลองปฏิบัติการฉาบจริงๆจนได้ความรู้ความชำนาญอันเป็นการส่งเสริมให้เกิดอาชีพทางเลือกแก่วิทยาลัยสังกัดอาชีวศึกษานำโดยผู้แทนบริษัทคือคุณนุช  ยิ่งไพบูลย์ ซึ่งได้ขยายความตามข้อมูลข้างต้น

ผอ.นางณชนกพรหมพร บุญชูศรี กล่าวเน้นย้ำทิ้งท้ายว่า วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล จัดโครงการเสริมทักษะการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะภาวะโรคระบาดโควิด-19 โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นการนำความรู้ในศาสตร์ทั้ง 3 ด้านหรือ 3 มิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม สู่การปฏิบัติจริงหรือเดินตามรอยพ่อในการปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน เพื่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนประกอบด้วย การพัฒนาตนเอง การพัฒนางานในหน้าที่ความรับผิดชอบด้วยองค์ความรู้ตามศาสตร์พระราชา เดินตามรอยเท้าพ่อสานต่องานที่พ่อทำ

ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา

เสกสรร  สิทธาคม

Seksan2493@yahoo.com

Edunewssiam.com