อว.ลุยเปิด รพ.สนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่ว ปท.เกือบ 1.3 หมื่นเตียง

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์ในสังกัด อว.ยังคงเดินหน้าเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นอีก เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19

ด้วยต่างสำนึกว่าต้องสนับสนุนรัฐบาลเพื่อร่วมต่อสู้กับวิกฤตในครั้งนี้ ให้พี่น้องประชาชนได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งตนได้ให้ทุกหน่วยงานของ อว.เตรียมเปิดพื้นที่เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก และกระจายไปทุกจุดทั่วประเทศ เพราะทุกชีวิตของประชาชนมีค่า เราจะดูแลและทำให้ดีที่สุด

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า ในวันนี้เป็นที่น่ายินดียิ่งขึ้นไปอีกที่มหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์ และสถาบันวิจัยต่างๆ ของ อว.ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นอีก 14 แห่ง และโรงพยาบาลสนามเดิมได้เพิ่มเตียง 1 แห่ง รวมมีจำนวนเพิ่ม 6,490 เตียง ทำให้ขณะนี้มีโรงพยาบาลสนามในสังกัด อว.อยู่ทั่วประเทศแล้วรวมเป็น 37 แห่ง รวมจำนวนถึง 12,822 เตียง  

ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามที่ได้จัดเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้นอีก ได้แก่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน จ.นนทบุรี จำนวน 40 เตียง 2.องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เทคโนธานี จ.ปทุมธานี จำนวน 70 เตียง 

3.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เทคโนธานี จ.ปทุมธานี จำนวน 20 เตียง 4.โรงยิมเนเซี่ยมศูนย์ฝึกอบรม เทคโนธานี จ.ปทุมธานี จำนวน 60 เตียง 

ในพื้นที่ภาคกลาง 5.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ จ.นครนายก ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จำนวน 300 เตียง, ภาคเหนือ 6.มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ที่ศูนย์กีฬากาญจนาภิเษก จำนวน 1,000 เตียง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7.มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ที่อาคารศูนย์เรียนรู้ จำนวน 300 เตียง 8.มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ที่หอประชุม และอาคารมหิธราบรรณาลัย จำนวน 60 เตียง 

9.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จ.อุดรธานี ที่หอพักนักศึกษาในเมือง เตรียมไว้เป็นสถานที่กักตัว จำนวน 3,000 เตียง, หอพักนักศึกษา วิทยาเขตสามพร้าว จำนวน 500 เตียง, หอพักนักศึกษา วิทยาเขตบึงกาฬ จำนวน 186 เตียง และอาคารอเนกประสงค์ วิทยาเขตบึงกาฬ จำนวน 50 เตียง 

ในพื้นที่ภาคใต้ 10.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 100 เตียง 11.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จ.ปัตตานี จำนวน 70 เตียง 

12.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส ที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ จำนวน 30 เตียง, โรงยิมเนเซี่ยมของมหาวิทยาลัยฯ จำนวน 50 เตียง 13.มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา ที่โรงเรียนการศึกษาพิเศษ จำนวน 60 เตียง, อาคารกิจกรรมนักศึกษา จำนวน 200 เตียง 14.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 144 เตียง  

ภาคตะวันออก 15.มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ศูนย์บางคล้า 200 เตียง, อาคาร 7 มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ศูนย์บางคล้า 50 เตียง, สัมมนาคาร บางปะกงปาร์ค บางคล้า สำหรับเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง จำนวน 30 ห้อง

นอกจากนี้ มีสถาบันอุดมศึกษาที่เพิ่มและลดจำนวนเตียง ตลอดจนเตรียมพร้อมเพียงสถานที่ ได้แก่ 1.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี ลดจากจำนวน 470 เตียง เหลือ 452 เตียง, 2.มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ที่โรงพยาบาลพยาบาลพุทธชินราช บึงแก่นใหญ่ เพิ่มจากจำนวน 40 เตียง เป็น 100 เตียง 

3.มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จ.ลำปาง ที่หอประชุม จำนวน 800 เตียง เตรียมพร้อมเพียงสถานที่ และ 4.มหาวิทยาลัยทักษิณ จ.สงขลา ที่สำนักส่งเสริมบริการวิชาการและภูมิปัญญาพนางตุง ลดจากจำนวน 500 เตียง เหลือ 350 เตียง

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)