รมว.อว.ปลื้มผลงาน U2T เดินหน้า “จิตอาสา” ช่วย รพ.สนามสู้ภัยโควิด-19

ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าว “3 เดือน U2T ความสำเร็จและก้าวต่อไป” เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า  โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T เริ่มต้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งตนยินดีกับความสำเร็จในเบื้องต้นของงาน อันเป็นเวลาเดียวกับที่มีการระบาดของโรคโควิด-19

อว.จะดำเนินโครงการ U2T ต่อไป ไม่หยุด ไม่ชะงัก เพราะโครงการ U2T เกิดจากโควิด- 19 รัฐบาลต้องการจ้างงานเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ประกอบกับโครงการ U2T ทำให้ตำบลต่างๆ มีความเข้มแข็ง มีรากแก้วหยั่งลงไปในดิน

ทั้งนี้ ความสำเร็จประการแรก คือ อว.ทำให้เกิดการจ้างงานเกือบ 6 หมื่นคน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ต่อมาทำให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศได้ถึงเดือนละกว่า 700 ล้านบาท

รัฐมนตรีว่าการ อว.กล่าวว่า ช่วงเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ไปติดตามการจ้างงาน เหนือสุดที่ จ.ลำปาง ภาคอีสานสุดที่ จ.บึงกาฬ และภาคใต้สุดที่ จ.นราธิวาส ได้พูดคุยกับชาวบ้าน พวกเขาดีใจมาก ที่หมู่บ้านกลับมาคึกคัก ในตำบลมีคนเดินจับจ่ายใช้สอย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของ อว.คำนวณว่า ไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่ผู้รับจ้างงานได้รับ หมุนเวียนอยู่ใน 3 พันตำบลของโครงการ U2T นั่นเอง  

ความสำเร็จประการต่อมาคือ การจ้างงานทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ได้รับการว่าจ้างงานกับชุมชนเกือบ 1 หมื่นโครงการ เฉลี่ยตำบลละ 30 โครงการ มีหลายโครงการที่น่าสนใจ เช่น การนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีมาจัดทำทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุใน 12 วัดในชุมชนวอแก้ว จ.ลำปาง ซึ่งทำให้คนในชุมชนกลับมาอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเอง เพื่อยกระดับเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน

นอกจากนี้ มีการอบรมชาวบ้านทำสปาสมุนไพรในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชนภูเขาทอง จ.นราธิวาส เพื่อรองรับการท่องเที่ยว หรือการนำเทคโนโลยีด้าน IoT ไปใช้ในด้านการเกษตร เปลี่ยนแปลงเกษตรดั้งเดิมให้เป็น Smart Farming รวมถึงการทำเกษตรปลอดภัยในอีกหลายๆ ตำบล

ที่ จ.บึงกาฬ เอาศิลปะโบราณเกี่ยวกับพญานาค โดย "ครูขาบ" สุทธิพงษ์ สุริยะ ได้นำเด็กๆ มาฝึกทำพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ทำศิลปะพญานาค แต่ปรับให้เป็นสมัยใหม่ โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุดรธานีมาช่วยพัฒนา และมีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดามาช่วยด้วย เป็นต้น

"ที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับการจ้างงานส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษา และบัณฑิต ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ได้อย่างกลมกลืน กลมเกลียว เป็นการสนธิกำลังกัน"

ศ.ดร.เอนกกล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาผู้ได้รับการจ้างงานได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลพื้นฐานตำบล เพื่อสำรวจปัญหาและประเมินศักยภาพตำบลได้ถึง 97 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ได้รู้ว่า มีตำบล 31 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ และมี 66 เปอร์เซ็นต์ ที่พึ่งพาตัวเองได้ หรือก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้

จากนี้ไปผู้ได้รับการจ้างงานจะเก็บข้อมูลความหลากหลายของสังคมและความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อนำข้อมูลมาสนับสนุนโครงการ BCG หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ของรัฐบาล ซึ่งนอกจากผู้ได้รับการจ้างงานจะได้ทำงานกับชุมชนในเรื่องเหล่านี้แล้ว ยังได้เรียนรู้เพิ่มทักษะการเงิน ดิจิทัล ภาษาอังกฤษ และทักษะทางสังคมไปด้วย  

“ที่ผมพูดมา อาจจะมีคำถามว่า คุยโวหรือเปล่า ผมขอตอบว่าโครงการที่สำเร็จจริงหรือไม่ ดูไม่ยาก คือดูว่ามีคนสนใจเข้ามาร่วมกับเราหรือไม่ ซึ่งโครงการ U2T ถ้าไม่สำเร็จ ก็คงจะไม่มีภาคเอกชนมากมายเข้ามาร่วม เช่น เซ็นทรัลกรุ๊ป ให้ใช้พื้นที่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และในอนาคตจะให้ใช้พื้นที่อีก 40 แห่งทั่วประเทศ, มหาวิทยาลัยแม่โจ้แจ้งว่า กลุ่มซีพีจะสนับสนุนให้นำสินค้าเกษตรที่ชุมชนในโครงการ U2T ผลิต นำมาจัดจำหน่ายในเครือ"

รัฐมนตรีว่าการ อว.กล่าวอีกว่า ยังมีเบทาโกร มิตรผล ธนาคารออมสิน รวมทั้งกูเกิ้ลที่ให้การสนับสนุน และที่สำคัญภาคเอกชนต่างๆ อยากจะให้ อว.เพิ่มพื้นที่ตำบลให้ครบทั่วประเทศ ซึ่งตนได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาพัฒน์แล้ว เพื่อขอขยายโครงการ U2T ในอีกกว่า 4 พันตำบลแล้ว

อีก 3 เดือนข้างหน้า อว.จะให้นิสิตนักศึกษาในโครงการ U2T มาแข่งขันในโครงการ U2T Hackathon เพื่อให้ช่วยกันคิดหาแนวทางการพัฒนาตำบลของตัวเองให้ดีที่สุด และจะทำเรื่อง Foresight หรือการคาดการณ์เพื่อสร้างอนาคต ซึ่งตนคิดว่าเด็กรุ่นนี้โชคดีมากที่ได้เรียนรู้สิ่งที่พิเศษและวิเศษมากๆ  

“อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 อว.จะปรับการทำงานของโครงการ U2T ไปเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยงานโรงพยาบาลสนามสู้ภัยโควิด-19 ไปด้วย เราจะไม่หยุด ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่สะดุดเพราะโควิด เพราะ U2T เกิดมาจากโควิด เราจะทำไปจนถึงเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลเตรียมเปิดประเทศ” ศ.ดร.เอนก กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)