อว.ระดมกลุ่มโรงเรียนแพทย์รองรับผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก

“เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ระดมกลุ่มโรงพยาบาลหลักของโรงเรียนแพทย์ UHosNet ทำงานร่วมกับ สธ.-กทม. ปรับ รพ.สนามรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง พร้อมขยายห้องปฏิบัติการร่วมตรวจคัดกรองและค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน ด้าน ปลัด อว.ให้จิสด้าใช้ข้อมูลดาวเทียมสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยง จัดสรรงบฯสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ช่วยหมอแนวหน้า

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ อว.ได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี

ดังนั้น อว.จะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ โดยจะขยายกำลังมาดูแลผู้ป่วยกลุ่มเหลือง ส้ม แดงได้มากขึ้น จากเดิมที่ดูแลกลุ่มเขียวเป็นหลักด้วย รพ.สนาม ทั้งนี้ ได้ให้กลุ่มโรงพยาบาลหลักของโรงเรียนแพทย์ UHosNet มาทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และ กทม.อย่างใกล้ชิดในการรับผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ส้ม และเหลืองแก่  ส่วน รพ.สนามที่ อว.เปิดดำเนินการอยู่แล้วจะปรับเพิ่มเติมให้พร้อมรับผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มสีเหลืองอ่อน เหลืองเข้ม และส้ม ตามความเหมาะสม

รมว.อว.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อว.จะเตรียมความพร้อมทางอาคารสถานที่และนวัตกรรม ในกรณีที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม เช่น รพ.สนามสำหรับสีเหลืองส้ม ICU สนาม เพื่อเป็นกำลังหนุน

"โดยขอให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ และหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาช่วย และประสานร่วมมือกับภาคเอกชนด้วย รวมทั้งสนับสนุนห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจคัดกรองและการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน โดยคณะเทคนิคการแพทย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ เป็นหลัก"

ด้าน ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวเพิ่มติมว่า อว.จะสนับสนุนข้อมูลและระบบบริหารจัดการเชิงพื้นที่ โดยให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า ที่ดำเนินการอยู่แล้ว สำรวจพื้นที่และจุดเสี่ยงโดยอาศัยประสบการณ์ที่เคยทำมาแล้วที่  จ.สมุทรสาคร

นอกจากนี้ อว.ได้ปรับงบประมาณที่มีอยู่มาสนับสนุนนวัตกรรมการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรแนวหน้า โดยเฉพาะอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น หน้ากาก N95, ชุดหมี PPE, หน้ากากความดันบวกสำหรับบุคลากรการแพทย์ PAPR, High Flow Oxygen system, เครื่องวัด Pulse oximeter, ระบบเอกซเรย์ภาคสนามเคลื่อนที่ เป็นต้น

โดยให้หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสนับสนุนนวัตกรรมที่ใช้งานได้และมีสายการผลิตแล้วมาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งทำงานร่วมกับเอกชนด้วย

ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีนวัตกรรมและบริหารจัดการข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศบค. มีอาทิ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) เป็นต้น

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)