'ตรีนุช'ติดตามเปิดเทอม ขอบคุณครูฯยืดหยุ่นตามผู้ปกครอง ย้ำ!การ์ดต้องไม่ตก

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ภายหลังจากเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในพื้นที่สีส้ม ที่ จ.เชียงใหม่ และขอนแก่น รวมถึงได้รับรายงานสถานการณ์ของทุกโรงเรียนทั่วประเทศทุกวัน

พบว่า ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมถึงสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนทุกแห่ง ได้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ของกระทรวงศึกษาธิการ และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

โดยสถานศึกษาในพื้นที่สีส้มที่ประสงค์จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-Site ที่สถานศึกษา จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมของระบบ Thai Stop COVID + (TSC+) ของกระทรวงสาธารณสุข ครบทั้ง 44 ข้อ เมื่อเปิดเรียนแล้วนักเรียนและผู้ปกครอง ก็ต้องประเมินความเสี่ยงคัดกรองตัวเอง โดยใช้แอปพลิเคชัน “ไทยเซฟไทย” ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อประเมินเสร็จแล้ว แอปฯจะบอกชัดเจนว่าอยู่ในกลุ่มไหน ถ้าอยู่ในกลุ่มสีแดง หรือเสี่ยงมาก ก็ไม่ควรออกไปพบปะผู้อื่น

ขณะเดียวกันทางสถานศึกษาก็มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ มีบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมต่างๆ

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ก็ได้ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนและครู โดยได้ร่วมกับทางโรงเรียนในการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในทุกโรงเรียน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ก็มีข้อมูลและมาตรการเป็นรายพื้นที่ รายโรงเรียน หากเกิดเหตุพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ก็สามารถสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ทันที

รมว.ศธ. กล่าวว่า การเปิดภาคเรียนภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีความยืดหยุ่นมาก สถานศึกษาแต่ละแห่งดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยยึดสภาพจริงตามสถานการณ์เป็นหลัก โรงเรียนสามารถเลือกใช้วิธีการสอนรูปแบบใดก็ได้ที่เหมาะสม รวมถึงหากมีความจำเป็นก็สามารถเปลี่ยนจากการเรียนที่โรงเรียน เป็นการเรียนในรูปแบบอื่นทดแทนได้

“ความต้องการของผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่ แต่ละโรงเรียน มีไม่เหมือนกัน แม้อยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ชั้นเรียนเดียวกัน ก็มีความต้องการไม่เหมือนกัน ผู้ปกครองบางคนไม่มีเวลาดูแลลูกหลานอยากให้มาเรียนที่โรงเรียน และมีความมั่นใจในมาตรการของโรงเรียน จึงส่งลูกหลานมาโรงเรียนตามปกติ แต่ก็มีผู้ปกครองบางส่วนไม่มั่นใจ ทางโรงเรียนก็ได้จัดให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามแนวทางที่สะดวก เช่น เรียนผ่าน On-Line ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือเรียนแบบ On-Hand โดยจัดส่งหนังสือ แบบเรียน แบบฝึกหัด หรือใบงาน ไปให้นักเรียนเรียนที่บ้าน”

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณคุณครู ผู้บริหารสถานศึกษาที่เสียสละ และปรับตัวจัดการเรียนการสอนอย่างยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ตนได้เน้นย้ำตลอดว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร เด็กทุกคนต้องไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้ เพียงแต่เราต้องจัดการศึกษาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของทุกคน ทั้งนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด การ์ดต้องไม่ตก

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)