สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานความคืบหน้ากรณีมีการเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พิจารณาตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ต่อเนื่องเพื่อจ้างครูอัตราจ้างสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนที่ขาดแคลน ตามนโยบายยกระดับคุณภาพการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ของ สพฐ.เดิมที่ต้องการยกระดับคุณภาพการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนครูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ พิจารณาคัดเลือกโรงเรียนที่มีความขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ส่งให้ สพฐ.พิจารณาจัดสรรงบประมาณการจ้างครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้กับโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องและมีรอบระยะการจัดสรรงบประมาณให้กับโรงเรียนที่ สพท.คัดเลือก 3 ปี/รอบ รอบที่ 1 ปีงบประมาณ 2556-2558, รอบที่ 2 ปีงบประมาณ 2559-2561 และรอบที่ 3 ปีงบประมาณ 2562-2564

ซึ่งก่อนหน้านี้ สพฐ.ได้มีหนังสือแจ้งว่า ในวันที่ 30 กันยายน 2564 จะสิ้นสุดการจัดสรรงบประมาณ และมีความเห็นเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการแล้ว จึงให้สิ้นสุดโครงการ

ต่อมา ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ชี้แจงรับทราบความเดือดร้อนของกลุ่มครูอัตราจ้างในตำแหน่งบุคลากรวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ในโครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา กิจกรรมครูคลังสมอง ของ สพฐ. รวมจำนวน 1,964 คน ซึ่ง สพฐ.ได้มีหนังสือแจ้งด่วนที่สุดที่ ศธ.04010/ว.34 ลงวันที่ 7 มกราคม 2564 ระบุว่า โครงการนี้จะสิ้นสุดการจัดสรรงบฯสนับสนุนในวันที่ 30 กันยายน 2564 โดย สพฐ.จะเลิกจ้างบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ทั้ง 1,964 คน

“ซึ่ง สพฐ.ขอชี้แจงว่าได้แจ้งให้กลุ่มครูอัตราจ้างดังกล่าวได้รับทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 7 เดือนก่อนจะถึงเดือนสิ้นสุดโครงการในเดือนกันยายน 2564 นี้ เพื่อให้กลุ่มครูอัตราจ้างได้มีช่องทางในการเตรียมตัว เพราะ สพฐ.ไม่ได้เตรียมงบประมาณให้ดำเนินโครงการต่อในปี 2565 เนื่อจากที่ผ่านมา สพฐ.ต้องจัดสรรงบฯจ่ายให้เฉพาะกลุ่มอัตราจ้างปีละกว่า 2,000 ล้านบาท โดยจ้างครูในโครงการนี้ จำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ สพฐ.ไม่มีงบฯพัฒนาในด้านอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับทราบปัญหา และกำลังหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาให้ตามความเหมาะสม”

ทั้งนี้ ดร.อัมพร ชี้แจงด้วยว่า การเลิกจ้างกลุ่มครูอัตราจ้างในโครงการดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบ เพราะ สพฐ.ไม่ได้ขาดครูวิทยาสตร์ และคณิตศาสตร์ และจริงๆ แล้วโครงการนี้เกิดขึ้นบนพื้นฐานที่ต้องการเสริมทักษะให้ผู้เรียนเก่งวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการขาดครูแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องของกลุ่มครูอัตราจ้างในโครงการครูคลังสมองดังกล่าว จำนวน 1,964 คน ได้รับการตอบรับหาทางช่วยเหลือโดยรองศาสตราจารย์ ดร.สุรวาท ทองบุ ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะ กมธ.ที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร โดยยื่นข้อเรียกร้องต่อ น.ส.ตรีนุช รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ในวันที่ กมธ.การศึกษาฯ เชิญมาร่วมประชุมเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

ซึ่งรองศาสตราจารย์ ดร.สุรวาทเสนอให้ ศธ.จัดสรรงบประมาณจ้างครูอัตราจ้างโรงเรียนของรัฐ โดยเฉพาะครูวิทย์-คณิต (ครูคลังสมอง) สังกัด สพฐ. ตลอดจนอุดหนุนการจ้างครูโรงเรียนเอกชนให้ได้รับเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา ให้มีการจ้างงานต่อเนื่องทุกตำแหน่ง เพื่อช่วยเหลือครูเหล่านี้ไม่ตกงานในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เช่นปัจจุบัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 รองศาสตราจารย์ ดร.สุรวาท ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ว่า ในที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ด้านการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาร่างงบประมาณของ สพฐ.ในส่วนของงบฯค่าดำเนินงาน 12,001.3 ล้านบาท และงบฯลงทุน 13,171.5 ล้านบาท

คณะอนุกรรมาธิการฯมีมติไม่ปรับลดงบฯค่าดำเนินงาน 12,001.3 ล้านบาท ให้คงเดิม พร้อมทั้งเสนอให้ สพฐ.นำงบฯค่าดำเนินงานที่คงเหลือไว้เพื่อเป็นงบฯพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนโครงการต่างๆ 2,340.96 ล้านบาท (ดูเอกสาร) ไปเพิ่มเป็นรายการค่าจ้างครู ธุรการ ภารโรง และบุคลากรอื่นๆ ทุกตำแหน่งให้เพียงพอต่อเนื่องตรงเวลา โดยเฉพาะนำงบฯไปจ้างคืนอัตราธุรการ ภารโรงที่ลาออกหรือเกษียณฯ จ้างให้มีครบทุกโรงเรียน โดยเฉพาะต้องจ้างครูทดแทนครูที่เกษียณฯปี 2562 และ 2563 ที่กำลังสอบบรรจุและรอการคืนอัตราอยู่ไปพลางก่อนด้วย

“โดยสรุปเมื่อครูอัตราจ้างวิทย์-คณิตในโครงการครูคลังสมอง สพฐ.ไม่มีการตั้งงบประมาณ และจะสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่จะถึง คณะอนุ กมธ.งบประมาณด้านการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอให้ สพฐ.นำงบฯที่ตั้งไว้ในปีงบฯ 2565 เพื่อใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนที่กำหนดไว้ในโครงการต่างๆ จำนวน 2,340.96 ล้านบาท อาทิ เอาไว้ใช้เป็นค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุ เบี้ยเลี้ยง พาหนะเดินทาง อบรม ประชุม นิเทศ ติดตาม ฯลฯ ให้เปลี่ยนมาเป็นค่าจ้างลูกจ้างทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะครูวิทย์-คณิต (ครูคลังสมอง) และคืนอัตราธุรการและภารโรงที่ว่างลงและตัดอัตราไปด้วย”

ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า หาก สพฐ.ไม่ดำเนินการตั้งงบประมาณค่าจ้างลูกจ้างทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะครูวิทย์-คณิต (ครูคลังสมอง) และคืนอัตราธุรการและภารโรงที่ว่าง โดยอ้างเหตุเงินไม่พอ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ น.ส.ตรีนุช รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่จะต้องเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณกลางจากรัฐบาล หรืองบฯเงินกู้ เพื่อช่วยเยียวยาให้มีการจ้างงานต่อเนื่องทุกตำแหน่ง เพื่อช่วยเหลือครูและบุคลากรอัตราจ้างไม่ให้ตกงานในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เช่นทุกวันนี้

 (โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)