นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า  ในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผ่านระบบห้องประชุมออนไลน์ ZOOM เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หยิบยกข้อราชการและโครงการต่างๆ ที่ สพฐ.อยู่ระหว่างดำเนินการมารายงานให้ที่ประชุมได้รับทราบ

โดยเฉพาะโครงการที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) อาทิ การดำเนินงานการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning การเผยแพร่บทความวิจัยของครูและบุคลากรทางการศึกษาในรูปแบบ e-Journal และร่างกรอบแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เป็นต้น  

ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ซึ่งพบว่า ขณะนี้มีครูและบุคลากรทางการศึกษาติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด สพฐ.ปฏิบัติตามมาตรการที่คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันให้ดูแลช่วยเหลือครูและบุคลากรที่ติดเชื้อ เร่งรัดเพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบทั่วทั้งประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานความคืบหน้าเรื่องการอนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ เพื่อจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักตัวหรือสถานที่พักคอย รวมถึงหน่วยบริการด้านสาธารณสุข

"ล่าสุดพบว่า มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 846 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม 81 โรงเรียน, โรงพยาบาลสนามสำรอง 17 โรงเรียน, โรงพยาบาลสนามและสถานที่กักตัว 42 โรงเรียน, สถานที่กักตัว 460 โรงเรียน, สถานที่พักคอย 334 โรงเรียน, สถานที่แวะเข้าห้องน้ำ 11 โรงเรียน และหน่วยคัดกรอง (Swab) 1 โรงเรียน และ 2 ค่ายลูกเสือ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้รวมจำนวน 20,981 เตียง" นายสนิท รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว

 (โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)