ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ลงนามในหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04006/ว2487 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขต และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) แจ้งเรื่องแนวทางการดำเนินงานตามโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ฉบับดังกล่าว ระบุใจความสำคัญว่า จากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 อนุมัติโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับนักเรียนคนละ 2,000 บาท
ดังนั้น เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการขอรับจัดสรรงบประมาณตามโครงการดังกล่าว และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ จึงขอให้ สพท.และสถานศึกษาดำเนินการดังนี้
1.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยเบิกจ่าย ดำเนินการดังนี้
1.1 เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งบัญชี ชื่อบัญชี “ชื่อหน่วยงาน (โครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19)” เพื่อรองรับเงินที่ขอเบิกจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง สำหรับเตรียมดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวทันที
1.2 ตรวจสอบข้อมูลนักเรียน ผู้ปกครอง รายละเอียดเกี่ยวกับธนาคารที่ผู้ปกครองประสงค์จะให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่โรงเรียนจัดส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ถูกต้อง ครบถ้วน
2.สถานศึกษา ดำเนินดังนี้
2.1 สถานศึกษาสังกัด สพท.ตรวจสอบข้อมูลการยืนยันตัวตนนักเรียนจากระบบนักเรียนรายบุคคล (DMC) ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 และสำหรับสถานศึกษาสังกัด สศศ. ตรวจสอบข้อมูลการยืนยันตัวตนนักเรียนจากระบบ SET ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564
2.2 จัดทำข้อมูลรายละเอียดบัญชีธนาคารผู้ปกครอง (ชื่อธนาคาร ชื่อบัญชีเงินฝากธนาคาร เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร) หรือบัญชีธนาคารนักเรียน กรณีผู้ปกครองไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานความคืบหน้ากรณีปรากฏข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมจัดสรรเงินเยียวยาลดภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) คนละ 2,000 บาท ถึงมือผู้ปกครองในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้
โดยมีการเปิดเผยข่าวนี้จาก ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ ศธ. เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ให้กับผู้ปกครอง โดยช่วยเหลือบุตรหลานนักเรียนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัด ศธ.ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถานศึกษานอกสังกัด ศธ.
ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 6 และระดับอาชีวศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน รวมทั่วประเทศประมาณ 11 ล้านคน ใช้งบประมาณรวม 21,600 ล้านบาท โดยจ่ายผ่านสถานศึกษา และให้สถานศึกษาจ่ายตรงให้แก่นักเรียนนักศึกษาหรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณีในรูปแบบของเงินสด
“ขณะนี้สำนักงบประมาณอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด และจะส่งเรื่องมาที่ ศธ.ภายในวันที่ 13 สิงหาคม 2564 จากนั้น ศธ.จะตรวจสอบข้อมูล ก่อนจัดทำขั้นตอนการจัดสรรเงินงบประมาณลงไปที่สถานศึกษาภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ดังนั้น ในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เงินเยียวยาจำนวน 2,000 บาท จะส่งถึงนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองทันที” ดร.เกศทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวตามมาว่า จากข่าวการให้สัมภาษณ์ของ ดร.เกศทิพย์ดังกล่าว ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนาวสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พอสมควร เกรงว่านักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองจะไม่ได้เงินเยียวยาภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 จริง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์กระทรวงศึกษาธิการ และตัวรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เอง
น.ส.ตรีนุช จึงมีการสอบถามในที่ประชุมออนไลน์กับผู้บริหาร ศธ.ที่เกี่ยวข้องกับงานโฆษก ศธ.ถึงการให้ข่าวดังกล่าวของ ดร.เกศทิพย์ว่า มีความมั่นใจแล้วใช่หรือไม่ ว่านักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองจะได้รับเงินเยียวยาภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 จริง
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
