ส่องวิทยาลัยนานาชาติจีน...ในประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง

 

“จีน” ถือเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุด แม้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ธนาคารโลกก็ยังคาดการณ์ว่าในปีนี้ GDP ของประเทศจีนจะทะยานขึ้นถึง 8.5% อีกทั้งนักเศรษฐศาสตร์หลายท่านได้ประเมินว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า จีนจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกอย่างสมบูรณ์แบบ

ส่งผลให้จีนเป็นประเทศที่ทั่วโลกจับตามอง หลายคนอยากรู้จักประเทศจีนมากขึ้น อยากมีเครือข่ายในประเทศจีน พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอยากให้ลูกเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีนมากขึ้น ในขณะเดียวกันอาจารย์และนักศึกษาจากประเทศจีนก็ต้องการเข้ามาสอนเข้ามาเรียนในประเทศไทยมากด้วยเช่นกัน เพราะวัฒนธรรมที่คลายคลึงกันและเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์มายาวนาน

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จะมีทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน ที่เริ่มเปิดหลักสูตรภาษาจีนเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างเครือข่ายจีนให้กับสถาบันและนักศึกษา บางมหาวิทยาลัยลงทุนจัดตั้งเป็น “วิทยาลัยนานาชาติจีน” แยกออกมาโดยเฉพาะ

มุ่งเน้นไปที่การเรียนการสอนที่มีเนื้อหาและหลักสูตรเกี่ยวกับประเทศจีนโดยตรง มีอาจารย์จากประเทศจีนมาสอน มีหลักสูตรหลากหลายและเชื่อมโยงกับหลักสูตรที่เปิดสอนในประเทศจีน ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้ปกครองและผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะเพื่อเตรียมสู่ความได้เปรียบในอนาคต

ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิทยาลัยนานาชาติจีน วันนี้เรารวบรวมมาให้ครบจบในคอนเทนต์นี้แล้ว 

เริ่มต้นที่ “มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ” หรือชื่อคุ้นหูคือ “เอแบค” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งลำดับแรก ๆ ของประเทศไทยที่ได้มีการจัดตั้งสถาบันนานาชาติจีนขึ้นมา เพื่อรองรับนักศึกษาจากประเทศจีนที่เดินทางเข้ามาเรียนในประเทศ รวมถึงเพื่อรองรับความต้องการของนักศึกษาไทยที่ต้องการเรียนหลักสูตรภาษาจีนในช่วงนั้น

ซึ่งปัจจุบันเปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ในคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนในเชิงธุรกิจ ตลอดจนความรู้เชิงวิชาชีพ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดหลักสูตรอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท 

ต่อมา มหาวิทยาลัยรังสิต” มุ่งเน้นการสอนในหลักสูตรด้านบริหารธุรกิจ โดยในระดับปริญญาตรี จะเปิดสอนสาขาวิชาการเงินและการลงทุน สาขาวิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 600,000 บาท

และในระดับปริญญาโท จะเปิดสอนในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท 

สำหรับ “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” ก็เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่ได้เปิดวิทยาลัยนานาชาติจีน ในระดับปริญญาตรี มีสาขาวิชาให้เลือกเรียน 2 สาขา

ได้แก่ สาขาวิชาภาษาจีนเพื่อธุรกิจระหว่างประเทศ และสาขาวิชาภาษาจีนเพื่อการท่องเที่ยวและการโรงแรม โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท

รวมถึง “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นหลักสูตรด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน โดยเปิดสอนระดับปริญญาตรี มีทั้งหมด 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาภาษาจีน และสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน

นอกจากนี้ ยังเปิดสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ในสาขาวิชาการสอนภาษาจีน โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท

 

สุดท้าย “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่เปิดวิทยาลัยนานาชาติจีน (China International College: CIC) มายาวนานกว่า 11 ปี เพื่อรองรับนักศึกษาที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ ทั้งคนไทยและคนจีน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมระหว่างกัน

โดยจุดเด่นของวิทยาลัยนานาชาติจีน คือ “ภาษา” มีให้เลือกเรียนแบบ Bilingual ทั้งหลักสูตรภาษาไทย-จีน และภาษาอังกฤษ-จีน ต่อมาคือเรื่อง “หลักสูตร” มีตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก และยังครอบคลุมหลายสาขาวิชา ได้แก่ ระดับปริญญาตรี เปิดสอน สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ สาขาการจัดการการท่องเที่ยว สาขาการบัญชีการเงิน สาขาการออกแบบศิลปะ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 300,000-700,000 บาท

ระดับปริญญาโท เปิดสอน สาขาการจัดการการศึกษา สาขาการจัดการธุรกิจ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท และระดับปริญญาเอก สาขาบริหารธุรกิจ การจัดการการศึกษา โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอดการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 1,200,000 บาท

นอกจากนี้ คณาจารย์ที่มาสอนส่วนใหญ่เป็น “ครูจีน” ที่มีประสบการณ์ด้านการศึกษาและมีวิสัยทัศน์ มุมมองในบริบทความต้องการของประเทศจีน ที่สำคัญคือ “ความสัมพันธ์รระหว่างสถาบันการศึกษา” เนื่องจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล จึงเกิดโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน เพื่อไปเรียนรู้หลักสูตรการศึกษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงมีทุนการศึกษาทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระดับปริญญาโทให้กับนักศึกษาในทุกปี

อีกทั้งยังมีโครงการสองปริญญาร่วมกับมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ นักศึกษาที่มาเรียนจะได้เรียนรู้ถึง “ความหลากหลายทางวัฒนธรรม” เนื่องจากนักศึกษาที่มาเรียนมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทำให้เกิดการเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติ รวมไปถึงเกิดการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อยอดในการดำเนินธุรกิจในอนาคต

 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)