“ดิศกุล” ชู 4 นโยบายบริหารงานปี'65 เน้นพัฒนาคน–ทำงานออนไลน์

 

ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีแนวนโยบายการบริหารงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยยังคงเน้น 4 นโยบายสำคัญ คือ นโยบายที่ 1 เรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้พร้อมกับการดําเนินงานภายใต้สถานการณ์โควิด-19 และรองรับสภาวะวิกฤติฉุกเฉินอื่นๆ ในอนาคต

โดยทำงานภายใต้นโยบาย ‘คุรุสภา ONE’ หรือ One Network for Everyone ที่บุคลากรของคุรุสภาสามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่างที่ผ่านมาคุรุสภาได้ปรับลดเวลาและวันทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยตามความเหมาะสมหรือ Work From Home ซึ่งผลการทำงานถือว่าดี

ส่วนการทำงานต่อไปจะยังคงเป็นการทำงานออนไลน์ร่วมกันผ่านระบบ KSP e-Service และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (MIS) ที่จะทำให้การทำงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยระบบเครือข่ายอินทราเน็ตของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (VPN) พร้อมทั้งสนับสนุนให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานมากขึ้น

ด้วยการส่งเสริมให้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคุรุสภาในการปฏิบัติงานทุกชนิด อีกทั้งจะลดการประชุม onsite มุ่งเน้นการประชุม online มากขึ้น เนื่องจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะทำงานในรูปของคณะทำงาน ซึ่งมีจำนวนมาก ถ้าประชุม online ก็จะทำให้สะดวก รวดเร็ว รวมทั้งเป็นการปรับตัวแบบองค์กรสมัยใหม่ และขณะนี้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้เตรียมความพร้อมห้องประชุมต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถประชุม online ได้ตลอดเวลา

ดร.ดิศกุล กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายที่ 2 เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพระบบ IoT (Internet of Things) ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา มุ่งเน้นการบริหารและการบริการผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

โดยจะจัดหาครุภัณฑ์ เพื่อรองรับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครูผ่านระบบออนไลน์ (Online) การประชุมทางไกล การรักษาความปลอดภัย และการให้บริการด้วยระบบดิจิทัล การจัดทำระเบียบปฏิบัติและคู่มือการบริหารและการดําเนินงานนอกที่ตั้งผ่านระบบดิจิทัลของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

ตลอดจนการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สำหรับยุคใหม่ เน้น Content online แบบมีปฏิสัมพันธ์ และจัดทำหลักสูตร Training Course ในรูปแบบ Digital และพัฒนา Content online รวมทั้งคู่มือปฏิบัติงานอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

นโยบายที่ 3 เรื่องการสร้างความร่วมมือระดับองค์กรและบุคคล เพื่อการใช้และสนับสนุนทรัพยากรร่วมกัน เช่นขณะนี้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเร่งจัดทำแพลตฟอร์ม ระบบบริหารจัดการองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาความลุ่มลึกทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตั้งเป้าหมายครู บุคลากรทางการศึกษาใช้พัฒนาตนเองและต่อยอดได้ คาดว่าเร็วๆ นี้ทุกคนสามารถเข้ามาค้นหาความรู้ได้ 

อีกทั้งจะสร้างเครือข่ายการสืบสวนและสอบสวนด้านจรรยาบรรณวิชาชีพ แสวงหาพันธมิตรความร่วมมือด้านการพัฒนาวิชาชีพ การบูรณาการความร่วมมือด้านการยกย่องเชิดชูเกียรติกับหน่วยงานต้นสังกัด แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนาองค์กรกับหน่วยงานตามพระราชบัญญัติเฉพาะ และสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

นโยบายที่ 4 เรื่องการเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะต้องกำหนดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ระบุถึงความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาเอกและระดับคุณภาพ ตามมาตรฐานวิชาชีพรายบุคคลโดยการเพิ่มกิจกรรม

การปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.สภาครูฯ และกฎหมายลำดับรองการพัฒนารูปแบบการพิจารณาคดีทางจรรยาบรรณวิชาชีพให้สะดวกรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ การปรับปรุงระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับให้บริการผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เกิดความสะดวก รวดเร็วและเร่งรัดการพิจารณาคดีทางจรรยาบรรณวิชาชีพที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้เร็วขึ้น 

"อย่างไรก็ตาม การทำงานจะมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานเป็นหลัก เพื่อเพิ่มประประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ เชื่อว่าแม้โควิดจะยังไม่หายไปเราก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และดีด้วย" ดร.ดิศกุล กล่าว

 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)