องคมนตรีเชิญถุงพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ.พิษณุโลก-กำแพงเพชร

       ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดกำแพงเพชร  ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  ในพระบรมราชูปถัมภ์  เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

          

        วันที่ 3 ตุลาคม  2564  เวลา  08.50 น.พลเอก กัมปนาท  รุดดิษฐ์  องคมนตรี  ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก  โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายในการป้องกันและแก้ไขการเกิดภัยธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน้อมนำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์  ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง 

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท  รุดดิษฐ์  องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  ในพระบรมราชูปถัมภ์  เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,886 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง  จังหวัดพิษณุโลก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น  และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

           

        ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ตำบลบางระหัด อำเภอเมืองพิษณุโลก จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้

          

        จังหวัดพิษณุโลก  แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ 93 ตำบล 1,048 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “โกเซิน”และเตี้ยนหมู่กับร่องลมมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่างๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง  จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน   ได้รับความเดือดร้อน ความเสียหายและผลกระทบ ใน  4 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก อำเภอบางกระทุ่ม อำเภอวังทอง และอำเภอเนินมะปราง รวม 28 ตำบล 120 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 1,886 ครัวเรือน  ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายเข้าภาวะปกติแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่เป็นที่รับน้ำและลุ่มต่ำ นอกคันกั้นน้ำและเส้นทางน้ำหลาก ยังคงมีน้ำท่วมขังและรอการระบาย

ต่อจากนั้น เวลา 13.05 น.พลเอก กัมปนาท  รุดดิษฐ์  องคมนตรี  เดินทางไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร  โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายในการป้องกันและแก้ไขการเกิดภัยธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน้อมนำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์  ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร  ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลเอก กัมปนาท  รุดดิษฐ์  องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  ในพระบรมราชูปถัมภ์  เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,800 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร   เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น  และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

           

        ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร  จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้

          

       จังหวัดกำแพงเพชร  แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ 78 ตำบล 823 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน โกเซิน และเตี้ยนหมู่  ประกอบกับร่องลมมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่างๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก   จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน   และพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเดือดร้อน ความเสียหายและผลกระทบ ใน  6  อำเภอ ได้แก่อำเภอเมืองกำแพงเพชร  อำเภอพรานกระต่าย  อำเภอปางศิลาทอง  อำเภอคลองขลุง อำเภอขาณุวรลักษณ์บุรี และอำเภอคลองลาน รวม 31 ตำบล 246 หมู่บ้านราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 5,328 ครัวเรือน  ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าภาวะปกติแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มต่ำและเส้นทางน้ำหลาก ยังคงมีน้ำท่วมขัง

ทั้งนี้  ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ  ได้น้อมนำพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการป้องกัน และแก้ไข การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง นำไปปรับใช้ในแผนการช่วยเหลือ และกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ  เอกชน  องค์กร  มูลนิธิ และจิตอาสาพระราชทาน   เร่งระดมให้ความช่วยเหลือเป็นการเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน  และเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร สำหรับเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันการณ์ พร้อมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตในการประกอบอาชีพได้ตามปกติ ต่อไป