รมว.อว.สั่งเดินหน้าแผนพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏ 5 ปี

 

"เอนก" สั่งเดินหน้าแผนพัฒนา มรภ. 5 ปี ยกระดับสู่ความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติและพัฒนาและให้ความรู้ลึกทางพื้นที่และชุมชน ทำงานได้จริง รักถิ่นฐาน และสถาบันหลักของชาติ ย้ำต้นปี'65 แผนต้องเสร็จพร้อมทำโมเดลใหม่ เพื่อเป็นต้นแบบให้นานาชาติได้ด้วย

เมื่อวันที่ 21 ตตุลาคม 2564 ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบนโยบายและทิศทางการจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ (Strategic Action Plan) เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ พร้อมรับฟังการน้อมนำพระราโชบายสู่การยกระดับมหาวิทยาลัยราชภัฏจาก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี  

ทั้งนี้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า จากการที่ตนร่วมงานกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) พบว่าจุดเด่นหรือจุดแข็งของความเป็น มรภ. คือเข้าใจและเข้าถึงท้องถิ่น และเป็นสถาบันที่สร้างพลเมืองดี รักชาติ บ้านเมือง รักสถาบัน เราต้องนำจุดแข็งเหล่านี้มาร่วมกันสร้างแผนการพัฒนาให้เกิดเป็นรูปธรรมใน 5 ปีข้างหน้า สร้างให้ มรภ.มีความเป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่งอย่างจริงจัง

เช่น ด้านการสอนและให้ความรู้แก่ชุมชน การทำงานได้จริง ความรักถิ่นฐาน และที่สำคัญต้องมีความรู้ด้านภูมิศาสตร์ของตน ทุกฝ่ายที่เข้ามาร่วมมือกันในการจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ มรภ.ครั้งนี้ ทั้งสำนักงานปลัด อว., สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)

มหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่งในประเทศ ต้องเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีการทำงาน ต้องเชื่อมั่นว่าเราคือสถาบันที่ดีและมีคุณภาพ รวมถึงความเป็นเลิศที่เรามีจะแสดงออกสู่สายตาประชาชนอย่างไร ให้เกิดความศรัทธาและอยากก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ มรภ. 

“แผนปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ มรภ.ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในต้นปี 2565 และต้องมีความชัดเจน มีตัวชี้วัดที่เกิดผลได้จริง ตอบโจทย์ความเป็นท้องถิ่นของ มรภ. กลไกต่างๆ เหล่านี้เมื่อนำมาพัฒนาอย่างจริงจังจะเกิดเป็นโมเดลใหม่ของการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศเฉพาะตัวบนโลกใบนี้ สามารถเป็นแบบอย่างให้กลุ่มประเทศ CLMV ได้หรือในระดับโลกได้ และนี่จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทย”

รมว.อว.กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือการสร้างความเจริญก้าวหน้าแก่อาจารย์ผู้สอน ให้ได้รับตำแหน่งทางวิชาการ ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ในสาขาที่ตนเองถนัด ที่ไม่ต้องมีการทำผลงานทางวิชาการ ตำราหรืองานวิจัย แต่ใช้ความเชี่ยวชาญของตนกับงานที่มีคุณภาพมาขอรับการพิจารณาได้

ยกตัวอย่างเช่น การเป็นผู้ที่ทำงานวิชาการอันเป็นคุณประโยชน์ต่อชุมชน แก้ปัญหาในท้องที่และสร้างโอกาสให้ถิ่นฐานของตน และการใช้ความคิดสร้างสรรค์และวิชางานศิลปะตามความถนัดจนเกิดเป็นผลประจักษ์

ตนคิดว่า สิ่งเหล่านี้ควรค่าแก่การยกย่องและมีศักดิ์ศรีไม่แพ้ตำราหรืองานวิชาการเพียงอย่างเดียว และอยากให้บรรจุสิ่งเหล่านี้เข้าไปในแผนงานที่จะจัดทำให้เกิดขึ้นในต้นปีหน้า หวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกันพัฒนาตามแผนให้เกิดเป็นผลภายใน 5 ปี เพื่อทำให้ มรภ.เป็นอีกหนึ่งสถาบันทางการศึกษาที่มีความเป็นเลิศเฉพาะตัวได้อย่างเต็มภาคภูมิในระดับสากล

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)