สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤาษีดัดตน 80 ท่า 82 ตน และทรงเปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤาษีดัดตน 80 ท่า 82 ตน และทรงเปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระวิหารพระพุทธไสยาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤๅษีดัดตน 80 ท่า 82 ตน และทรงเปิดงานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ซึ่งวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และมูลนิธิสิริวัฒนภักดี จัดโครงการบูรณะฤๅษีดัดตนให้ครบ 80 ท่า 82 ตน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 เพื่อส่งเสริมให้ศาสตร์การนวดไทยตำรับของวัดและฤๅษีดัดตนสมบูรณ์แบบ เป็นการสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

โดยเมื่อปี  2374 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สร้างฤๅษีดัดตน เมื่อครั้งสถาปนาและปฏิสังขรณ์วัด เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้การดัดตน ซึ่งเป็นการผ่อนคลายร่างกายจากอาการเมื่อยล้า รวมทั้งบำบัดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ จำนวน 80 ท่า 82 ตน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงหล่อและบูรณะต่อจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก่อนการบูรณะรูปปั้นฤๅษีดัดตนเหลือเพียง 24 ท่า ซึ่งต้องอนุรักษ์ไว้ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เกรงว่าจะชำรุดมากขึ้น

ในปี 2559 จึงมีการหล่อสร้างขึ้นใหม่ด้วยทองเหลืองรมดำให้ครบตามจำนวนเดิม ซึ่งฤๅษีดัดตนที่สร้างขึ้นใหม่ มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด นำมาจัดแสดงไว้ที่บริเวณรอบถ้ำเขามอ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศาสตร์ทางด้านการแพทย์แผนไทย ให้แก่ผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้ชื่นชมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยอันทรงคุณค่า


ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการภาพวาดฝาผนัง และศิลาจารึกคัมภีร์แผนนวดวัดพระเชตุพนฯ โดย ปี 2554 องค์การยูเนสโก ได้มีมติรับรองให้จารึกวัดพระเชตุพนฯ ขึ้นทะเบียนรับรองเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาติ ซึ่งหลักฐานชิ้นสำคัญด้านการ “นวดไทย” ที่องค์การยูเนสโก ถือว่าครบถ้วนและสมบูรณ์มากที่สุด คือ จารึกแผนนวดวัดโพธิ์ ที่ทำให้  “นวดไทย”  ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองดังกล่าว

จากนั้น ทอดพระเนตรเขามอฤๅษีดัดตน ซึ่งเป็นสวนหินปลูกไม้ประดับ ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รื้อก้อนศิลาในพระบรมมหาราชวังมาก่อเป็นภูเขา ตกแต่งเป็นสวนประดับรอบวัด ปลูกต้นไม้ไว้ มีสถูปและเสาโคมแบบจีน รูปตุ๊กตาจีน และรูปสัตว์จัตุบาทเรียงรายอยู่ ส่วนเขาฤๅษีดัดตน เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รวบรวมการแพทย์แผนโบราณ และศิลปวิทยาการครั้งกรุงศรีอยุธยาไว้ มีพระราชดำริเอาท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถ แก้ปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ประยุกต์รวมกับคติไทยที่ยกย่องฤๅษีเป็นครู ผู้ประสิทธิ์ประสาทศิลปวิทยาการต่าง ๆ เป็นรูปปั้นฤๅษีดัดตนท่าต่าง ๆ

ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนิน
ไปยังด้านหน้าพระมหาเจดีย์ รัชกาล ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล ประกอบด้วย พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1, พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิทาน และพระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขาร สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 และพระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสมัยรัชกาลที่ 4


โอกาสนี้ ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จัดแสดงในลักษณะมัลติมีเดีย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แบ่งการจัดแสดงเป็น 2 ห้อง ได้แก่ ประวัติความเป็นมาของการนวดไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน คัมภีร์ ตำรา จารึกการนวดไทย และประวัติความเป็นมาของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ ในฐานะเป็นสถานศึกษาของประเทศที่สืบทอดรากเหง้าจากภูมิปัญญาของชาติ ได้มีการจัดระบบการเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐาน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพัฒนาองค์ความรู้ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ด้วยกระบวนการตามแบบโบราณ ผสมผสานกับวิธีการแบบสมัยใหม่ ให้สอดคล้องและก้าวทันยุคสมัยเรื่อยมา เพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการมิตรภาพที่งดงามระหว่างสองศาสนาวาติกัน-วัดพระเชตุพน ด้วย

 

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)