“...๑) มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง  ๒) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง  ๓) มีคุณธรรมและ ๔) มีงานมีอาชีพสามารถเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครัวได้และเป็นพลเมืองที่ดีมีระเบียบวินัย...”

พระบรมราโชบายด้านการศึกษามุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน4 ด้านในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในการสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาของเยาวชนไทยและคนไทยเป็นอย่างยิ่งดังเป็นที่ประจักษ์แก่คนไทย ได้ทรงส่งเสริมการศึกษาผ่านรูปธรรมมากมายทั้งการทรงให้สร้างสถานศึกษา พระราชทานทุนการศึกษาต่อเนื่องตั้งแต่ระดับเล็กๆไปจนถึงจบปริญญากันโน่นเลยและพระราชทานความช่วยเหลือในหลากหลายโอกาส โดยเฉพาะถ้าเผื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นไฟไหม้ ทำท่วมหรืออุทกภัย ไปจนถึงพายุพัดหรือวาตภัยถล่มโรงเรียนสถานศึกษาเสียหายก็จะพระราชทานความช่วยเหลือ

เป็นพระมหากรุณาธิคุณประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยที่นำมาซึ่งความซาบซึ้งอย่างหาที่สุดมิได้

แล้วที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้แก่วงการศึกษาไทยคือพระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษาเพื่อที่จะสร้างพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่ดีงามแก่นักเรียน  แก่ครูอาจารย์และแก่สังคมแก่ชาติบ้านเมืองด้วยเพราะพระบรมราโชบายนั้นคือหลักคิดหลักปฏิบัติตัวตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ

ด้วยเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระราชปณิธานสืบสาน  รักษาและต่อยอดตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่พระราชทานหลักการดำเนินชีวิตปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไว้ให้คนไทย โดยเฉพาะการปลูกฝังหล่อหลอมคนไทยตั้งแต่ยังเล็กขณะเป็นนักเรียน ซึ่งการเรียนที่ต้องปลูกฝังให้เจริญงอกงามในการดำเนินชีวิตคือเยาวชนที่กำลังเรียนในสายอาชีพหรืออาชีวศึกษา

การจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาวันนี้ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นที่เรียกว่าระดับปวช.จัดการเรียนการสอนไปจนจบปริญญาตรีแบบต่อเนื่องซึ่งต้องเน้นย้ำเรียนปฏิบัติจริงทำจริงเป็นสำคัญทุกระดับขั้นตอนไปจนกระทั่งบำรุงรักษา แก้ปัญหา และผลิตงานขึ้นมาเองได้ เป็นผลผลิตที่นำไปทำการตลาดได้ สร้างเป็นรายได้ กระทั่งแบ่งปันเกื้อกูลคนอื่นได้โดยนักเรียนนักศึกษาอาชีวะถูกหล่อหลอมด้วยหลักแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯไม่ว่าจะเป็นการสร้างความรักความพอใจในการเรียนนั้น ความขยันหมั่นเพียร การเอาใจใส่ด้วยความมุ่งมั่นและรู้จักใคร่ครวญ โดยเป้าหมายคือพระบรมราโชบาย มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง  มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง   มีคุณธรรมและ มีงานมีอาชีพสามารถเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครัวได้และเป็นพลเมืองที่ดีมีระเบียบวินัย

การจัดการเรียนการสอนในสายวิชาชีพอาชีวศึกษายึดเดินตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยสืบสาน รักษา ต่อยอดไม่ว่าจะเรียนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อก้าวทันโลกตามยุคสมัยพัฒนาก้าวสู่สังคม4.0  หรือเรียนเกษตร เรียนศิลปหัตถกรรมก็เห็นจะทิ้งหลักการดำเนินชีวิตปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯไปด้วย เพราะหลักดังกล่าวเป็นสะพานก้าวไปสู่ความสุขที่เกิดมาจากความเชี่ยวชาญความสำเร็จในอาชีพที่เรียนมาซึ่งเชื่อว่าผู้บริหารครูอาจารย์อาชีวศึกษาคงตระหนักรู้และสำนึกถึงหลักคิดหลักปฏิบัตินี้เป็นอย่างดี

           เมื่อวันที่ 24 พย. 64 ที่ผ่านมานางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ไปเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management : CVM) ทั้ง 25 แห่งอย่างเป็นทางการ พร้อมร่วมพิธีรับมอบใบประกาศการรับรองเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน(Certification of Maintenance Training Organization Approval : AMTO) ของวิทยาลัยเทคนิคถลางและวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  บริษัทพนัสแอสเซมบลีย์ จำกัดและ บริษัทเอ เอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษา รมว. นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรมว.ศธ. นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมคมสันวิทยาคาร วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี จ.ชลบุรี

       ทั้ง 25 ศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เน้นย้ำถึงเป้าหมายชัดว่าต้องผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพ มีคุณคุณภาพที่เป็นความรู้ความเชี่ยวชาญในอาชีพแต่ละสายนั้นแน่นอน แล้วที่ต้องเป็นคนคุณภาพคู่กันไปคือการเป็นคนดีมีระเบียบวินัยมีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมืองต่อครอบครัวอันเกิดมาจากการที่อาชีวะน้อมนำพระบรมราโชบายหล่อหลอมให้ปฏิบัติตัวอย่างเป็นนิสัยตามแนวพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

        โอกาสนี้นางสาวตรีนุช เทียนทอง กล่าวแสดงความยินดีกับวิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทั้ง 2 แห่งที่ได้รับใบประกาศการรับรองเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน จาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศเป็นขวัญกำลังใจกัน

ที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาอาชีวศึกษา โดยเฉพาะได้ย้ำถึงการให้ยึดหลักการจัดการเรียนการสอนผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาสู่สังคมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสนองพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ผ่านมาได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ สอศ.อย่างต่อเนื่อง และได้กำหนดให้อาชีวศึกษาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆของประเทศ

           “ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาระดับอาชีวศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการศึกษาที่ทำให้เยาวชนและประชาชนของประเทศมีความรู้และทักษะอาชีพ ในการที่จะนำไปสู่การมีงานทำ มีรายได้ ทั้งในรูปแบบของการจ้างแรงงาน หรือการเป็นผู้ประกอบการ ทุกวันนี้นักศึกษาอาชีวะหลายรายมีศักยภาพสูงและสามารถมีรายได้เริ่มต้นที่ 5-6 หมื่นบาทได้ แล้วทำไมเราไม่ออกแบบการเรียนอาชีวศึกษาให้สามารถผลิตเด็กอาชีวะทุกคนได้ จึงเป็นที่มาของการเริ่มต้นศูนย์ CVM 25 แห่ง ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ.ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และนับเป็นภารกิจสำคัญของ สอศ.ในการนำเอายุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศไทยมาเป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อผลิตกำลังคนตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และรองรับการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม 4.0" นางสาวตรีนุช กล่าว

        รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาทั้ง  25 แห่ง จะเป็นต้นแบบในการจัดการอาชีวศึกษาในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ให้สามารถผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะสูงและมีคุณภาพ สอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่ สร้างแรงงานที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและมีจำนวนที่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ อย่างไรก็ตามฝากถึงผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ประกอบการทุกท่าน ว่า  ทุกคนมีความสำคัญอย่างมากในการที่ทำให้การจัดการอาชีวศึกษามีคุณภาพและบังเกิดผลสำเร็จ ขอให้มีความมุ่งมั่นบริหารจัดการสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ และประสานความร่วมมือกับชุมชน  หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาเป็นพลังในการขับเคลื่อนการอาชีวศึกษาร่วมกันต่อไป

         ขณะที่ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดเป้าหมายของประเทศที่มุ่งเน้นการผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและขับเคลื่อนกลุ่มคลัสเตอร์และอุตสาหกรรมรายสาขาให้เกิดความเข้มแข็ง รวมทั้งสร้างกรอบการพัฒนาบุคลากรของประเทศ ให้มีความพร้อมตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมโดยแท้จริง รวมถึงการเตรียมความพร้อมกำลังคนให้ตรงกับความต้องการแรงงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อสนองพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ รมว.ศธ.มีนโยบายให้ สอศ.มุ่งผลิตและพัฒนากำลังคน โดยการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) กรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) รวมถึงมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สอศ.จึงได้ขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ. โดยประกาศจัดตั้งศูนย์ CVM จำนวน 25 แห่ง ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยแต่ละศูนย์จะมีจุดเน้นและความเป็นเลิศที่แตกต่างกันตามกลุ่มอุตสาหกรรม

         “หนึ่งในภารกิจของศูนย์ CVM คือ การกำหนดยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาในศูนย์ฯร่วมกับหุ้นส่วนความร่วมมือ ภาคีเครือข่าย หน่วยงานทุกภาคส่วน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันนี้ เพื่อเป็นการนำเสนอกรอบแนวคิดการขับเคลื่อนศูนย์ฯ การเชื่อมโยงด้าน Demand และด้าน Supply เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ  พร้อมรับฟังนโยบายจาก รมว.ศธ.เพื่อไปสู่การยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ภายใต้การขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center)” เลขาธิการ กอศ.กล่าว

          ที่ผ่านมาผู้บริหารอาชีวศึกษาย้ำนโยบายแก่ผู้บริหารสถานศึกษาครูอาจารย์อบรมบ่มนิสัยนักเรียนนักศึกษาด้วยหลักคุณธรรมดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริคือย้ำให้มีความขยันอดทน ลงมือทำด้วยความตั้งใจเอาใจใส่ด้วยหัวใจแห่งความรักความผูกพันเมื่อมีความรู้ความสามารถแล้วมุ่งมั่นที่จะทำความดีเพื่อประโยชน์ส่วยรวม รู้จักให้แบ่งปันไม่เห็นแก่ประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเรียนช่างยนยนต์ ช่างไม้ เกษตรกรรม พาณิชยฏรรมหรือเรียนทางโลกทันสมัยเทคโนโลยอย่างระบบราง ระบบการบินเป็นต้นถ้ามีหลักคุณธรรมข้างต้นหลอมสำนึกอยู่เสมอย่อมก้าวไปสู่การประกอบอาชีพได้ทันทีเมื่อจบการศึกษาหรือแม้กำลังเรียนก็ตามและย่อมเป็นที่ปรารถนาของสถานประกอบการอุตสาหกรรมและก้าวไปสู่ความสำเร็จ ความสุขอันเป็นเป้าหมายหลักทั้งแก่ตนเองและคนอื่น  เป็นไปตามพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยให้คนไทยเป็นคนดีมีความสำเร็จความสุขดูแลตัวเองและสังคมได้อย่างยั่งยืน

พระมหากรุณาธิคุณ/เสกสรร  สิทธาคม