วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ

       

        วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีนับเป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าประชนชนชาวไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็น “วันพ่อแห่งชาติ”และ “เป็นวันชาติ” และเป็นวันดินโลก

        วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการหนึ่งวัน เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยรวมพลังสืบสานพระราชปณิธานประกอบคุณงามความดี ทำประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมไทย ปลูกฝังความดีงามให้เกิดขึ้นในสำนึกด้วยหลักธรรมตามแนวพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นต้นว่ามีความสำนึกอยู่ในความกตัญญู รู้จักให้รู้จักแบ่งปันเอื้อเฟื้อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีกัน รู้จักให้อภัยด้วยเมตตากรุณาเป็นต้นเพื่อจรรโลงสังคมให้ดีงามอยู่ร่วมกันด้วยวิถีแห่งความสงบสุขเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

        ในวันสำคัญดังกล่าวพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศจะได้พร้อมใจกันทำคุณงามความดี บ้างก็อาจไปทำบุญทำกุศล บ้างอาจรวมพลังร่วมเป็นจิตอาสาไปช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมฯลฯ สืบสานพระราชปณิธานที่ทรงมุ่งหวังให้คนไทยทุกหมู่เหล่าเป็นคนดีมีคุณธรรมร่วมกันนำพาสังคมไทยสู่ความสุขสงบร่มเย็นด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯหรือศาสตร์พระราชาที่พระราชทานให้เป็นพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่เป้าหมายคือความสุขอย่างยั่งยืนด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถวายเป็นพระราชกุศล

        พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ..2470 ณ โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา

        วันที่ 9 มิถุนายน พ..2489 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ นับแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเจริญพระราชจริยาวัตรเพื่อประโยชน์สุขแก่อาณาราษฎรไทยเป็นเอนกประการอย่างจริงจังต่อเนื่อง อีกทั้งยังพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณไปยังนานาประเทศเป็นที่ประจักษ์ถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแก่คนไทยและประชากรโลก

        ได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสเป็นพระปฐมบรมราชโองการที่พสกนิกรทุกคนยังจดจำได้ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" อันคำว่าโดย "ธรรม" นั้น ทรงหมายถึง ธรรมอันล้ำเลิศที่เรียกว่า "ทศพิธราชธรรม" หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า "ธรรม 10 ประการ" พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร ทรงยึดมั่นในหลักธรรมทรงปฏิบัติพระองค์ในหลักทศพิธราชธรรมและหลักคุณธรรมดำเนินพระองค์โดยเคร่งครัดตลอดพระชนมชีพ

        เป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตดีงามส่งผลถึงพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรและประชากรในนานาอารยะประเทศที่ได้น้อมนำเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติดำเนินชีวิตตามรอยพระยุคลบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมายที่ทรงคิดทรงศึกษาและทดลองถึงผลสำเร็จดีงาม คนทุกคนสามารถน้อมนำไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตตัวเองที่จะก่อเกิดผลสำเร็จได้แก่ตนเอง ครอบครัวและแก่ประเทศประชาชนไทย รวมไปถึงประชาคมโลก 

        โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ได้พระราชทานให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และใช้เป็นเครื่องมือดำเนินชีวิตพัฒนาความเป็นอยู่ให้ให้คนไทยให้คนทั่วโลกไว้มากมายทั่วประเทศ เป็นเครื่องมือนำพาปรับใช้ดำเนินชีวิตสู่ความสุขอย่างยั่งยืนได้ 

        จากพระราชกรณียกิจทั้งมวลอันเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ทำให้ทรงได้รับการถวายการยกย่องเทิดทูลพระเกียรติคุณเป็นต้นว่า ทรงได้รับการประกาศถวายพระเกียรติคุณจากนายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการยูเอ็น

        “เมื่อปี 2006 นายอันนัน ในฐานะเลขาธิการยูเอ็นขณะนั้น ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจ ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรไทยมาโดยตลอดรัชสมัย อันเป็นรางวัลเกียรติยศที่ยูเอ็นริเริ่มขึ้นมาใหม่ในปีนั้นเพื่อเทิดพระเกียรติเป็นกรณีพิเศษ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ด้วยทรงตระหนักว่าน้ำสำคัญต่อสรรพชีวิตอย่างที่สุด”

        พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรนับแต่เสด็จขึ้นครองราชย์ตราบจนเสด็จสวรรคตเป็นเวลารวมแล้ว 70 ปี ได้ทรงทุ่มเทพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่มาตลอดระยะเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ แทบมิได้ทรงพักพระวรกาย ทรงตรากตรำพระองค์มิทรงคำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการเสด็จฯไปทรงช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนราษฎร ด้วยเพราะทรงมุ่งที่จะบรรเทาปัญหาความทุกข์อันเกิดจากความยากจน

        แม้ยามทรงพระประชวรยังทรงงานโดยมิทรงย่อท้อ เมื่อทรงทราบว่าราษฎรของพระองค์ยังอดอยากยากจนอยู่ ทรงตั้งมั่นอยู่ในความเพียร ความอดทนที่จะบรรเทาความทุกข์ให้เบาบางไปจากพสกนิกรให้ได้ ด้วยทรงมีความรักในราษฎรเต็มพระราชหฤทัย ด้วยเพราะพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

        และเป็นที่ประจักษ์ว่าทรงสำราญพระราชหฤทัยกับการได้ทรงงานอย่างหนัก ที่สุดย่อมก่อเกิดประโยชน์สุขแก่พสกนิกรทั้งประเทศ ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกินกว่า 5 พันโครงการอีกทั้งยังแผ่พระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณไปถึงยังนานาประเทศดังที่ประจักษ์แก่คนไทยและชาวต่างประเทศตราบเสด็จสวรรคต พสกนิกรไทยต่างมีความสำนึกตรงกันว่าพระองค์คือ “พ่อของแผ่นดิน”

        พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรยังได้พระราชทานพระบรมราโชวาท พระราชดำรัสและพระราชดำริที่ล้วนเป็นหลักธรรมเพื่อเป็นหัวใจใช้ดำเนินชีวิตควบคู่ไปกับโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริมากมาย เพื่อให้ราษฎรใช้เป็นหลักคิดและนำไปปฏิบัติ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับอาชีพการเกษตร อาชีพข้าราชการ อาชีพธุรกิจ ได้พระราชทานแหล่งน้ำพร้อมหลักการสร้างและพัฒนา พระราชทานการพัฒนาดิน ดูแลรักษาป่า

        ด้วยทรงเห็นว่า การเกษตรนั้นเป็นรากฐานชีวิตสำหรับประชาชนในประเทศไทย จึงทรงให้ความสนพระราชหฤทัยพัฒนาการเกษตรทุกสาขาให้ก้าวหน้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและคนไทยให้ดีขึ้น โดยหลักทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญยิ่งต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรของสังคมไทย โดยพระราชทานพระบรมราโชวาทย้ำให้เห็นความสำคัญ น้ำคือชีวิต นั่นหมายถึงน้ำมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่และเจริญงอกงามของสรรพสิ่งสรรพชีวิต

        พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์กว้างไกล เฉพาะอย่างยิ่งด้วยพระมหากรุณาธิคุณด้วยพระเมตตาคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อราษฎรไทย ต่อประชากรโลก จึงทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนเป็นตัวตั้งและ ทรงงานโดยเน้นทางสายกลางที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของสังคมไทย โดยได้พระราชทาน “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”

        ซึ่งเป็นปรัชญาที่ชี้ถึงหลักการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันของประชาชนในทุกระดับ ให้ดำเนินไปในทางสายกลางคือดำเนินชีวิตไปด้วยความสุขบนความพอเพียงแบบพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการรู้จักความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน ภายใต้เงื่อนไขความรู้คู่คุณธรรม เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของผู้ปฏิบัติ สังคมรอบข้างและความก้าวหน้าอย่างสมดุล มั่นคง ยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมเป็นสำคัญทั้งในประเทศและที่เกิดทั่วโลก

        โชคดีเหลือเกินที่พวกเราเป็นคนไทยเกิดมาบนแผ่นดินไทย…แผ่นดินทองที่มีพ่อของแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขคนไทยด้วยพระราชหฤทัยเสียสละ และอุทิศพระองค์อย่างมิทรงคำนึงถึงความสำราญส่วนพระองค์เลยแม้แต่น้อยเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

         เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ รวมถึงเป็นวันชาติ และวันดินโลก สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ Edunewssiam.com ในนามประชาชนคนไทยขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศและคนไทยที่พำนักในต่างแดนรวมพลังน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

         พร้อมตั้งสำนึกมุ่งมั่นประกอบคุณความดี เป็นกำลังพัฒนาประเทศชาติบนวิถีแห่งวัฒนธรรม ประเพณี ขนบธรรมเนียมไทยที่ดีงาม สืบสานพระราชปณิธานที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยสร้างแบบอย่างเป็นแม่แบบเพื่อให้น้อมนำไปปรับประยุกต์ดำเนินชีวิตเพื่อประโยชน์สุขแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าด้วยทรงห่วงใยอันเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณถวายเป็นพระราชกุศล

         โดยขออัญเชิญพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๐ เพื่อให้คนไทยทุกหมู่เหล่าได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพร้อมน้อมนำเป็นหลักปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์สุขแก่สังคมชาติบ้านเมืองและตนเอง น้อมถวายเป็นพระราชกุศล

          “…ขอให้ท่านทั้งหลาย ตั้งปณิธานร่วมกันด้วยว่า จะประพฤติตนเป็นพลเมืองดีของชาติ ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และบทกฎหมายของบ้านเมือง ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต ขยันหมั่นเพียร ให้บังเกิดประโยชน์ในการที่จะช่วยสร้างตนเองและครอบครัวให้ผาสุกสมบูรณ์ ก่อให้เกิดความเป็นปึกแผ่นมั่นคงในทางเศรษฐกิจของชาติ นำสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราสืบไป…”