เผยผลสอบ E-Classroom-E-Library ปี'56 ส่อโกง ห่วง'ผอ.-ครู' 100 ร.ร.รับโทษ

แจ้งเตือน "ผอ.-ครู" กว่า 100 ร.ร.เตรียมรับมือผลสอบจัดซื้อจัดจ้างห้องเรียน E-Classroom และห้องสมุด E-Library เมื่อปีงบฯ ๕๖ ส่อสรุปไม่โปร่งใส อาจซ้ำรอยคดีทุจริตสนามฟุตซอล 'ปธ.ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูฯ' ตั้งทีมช่วยแก้ต่าง

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยกับ สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ว่า ขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกล่าวหาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างในโครงการห้องเรียน E-Classroom และโครงการห้องสมุดคุณภาพสู่มาตรฐานสากล (E-Library) เมื่อปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ในเบื้องต้นเสร็จสิ้นแล้ว 

มีข้อค้นพบว่า ๑.ส่ออาจมีการกำหนดครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างของทั้งสองโครงการดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับแผนงานโครงการรายการค่าก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมและที่ประสบอุบัติภัย​​​​​​​​​​​

๒.ส่ออาจมีการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อบางรายการใกล้เคียงกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ​พฤติการณ์อาจส่อไปในทางเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อาจกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และอาจกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ

นายรัชชัยย์กล่าวว่า ตนจึงขอเรียนพี่น้องผู้บริหารโรงเรียนและเพื่อนครูว่า ในเบื้องต้นนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสถานศึกษาในจังหวัดระนอง ชุมพร ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับงบประมาณนี้ และโรงเรียนที่ได้รับงบประมาณนี้ที่จะต้องถูกตรวจสอบด้วย จำนวนประมาณ ๑๐๐ โรงเรียน

"ข้อกล่าวหาเป็นลักษณะเช่นเดียวกับกรณีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยขั้นตอนต่อไปในส่วนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหญ่ออกไต่สวน ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับฝ่ายตรวจสอบ และเพื่อเป็นการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ผมเสนอแนะให้ผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งผู้บริหารโรงเรียนและเพื่อนครู ได้เตรียมการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ชี้แจง โดยในกรณีที่ สพฐ.ได้กำหนดราคาพัสดุมาให้ในรายการแจ้งจัดสรร ยังไม่ถือว่าเป็นราคากลาง"

ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวต่อว่า การเตรียมการรวบรวมหลักฐาน และเตรียมการร่างคำชี้แจง รวมถึงเทคนิควิธีในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ล่วงเลยมาหลายปีแล้ว อาจจำไม่ได้ หลักฐานกระจัดกระจาย

ดังนั้น การตอบผิดพลาด ตอบแบบไม่มีหลักไม่มีเทคนิควิธีในการต่อสู้คดี อาจจบลงด้วยการถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง และอาจถูกดำเนินคดีอาญาในศาลทุจริต ถูกเรียกร้องให้ชดใช้เงิน และที่น่าห่วงมากคือ ผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว อาจไม่มีใครช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยต่อสู้คดี ​​​​​​​

ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จึงขอเรียนแจ้งไปยังผู้บริหารโรงเรียนและคุณครู ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างในโครงการห้องเรียน E-Classroom และโครงการห้องสมุดคุณภาพสู่มาตรฐานสากล (E-Library) ว่า ทางชมรมพิทักษ์สิทธิพร้อมที่จะส่งทีมไปให้ความช่วยเหลือแนะนำในการต่อสู้คดีถึงที่ ขอเพียงรวมกลุ่มกันในแต่ละจังหวัด ทั้งฝ่ายประถมศึกษาและฝ่ายมัธยมศึกษา

"โดยจังหวัดในภาคเหนือติดต่อได้ที่ ผอ.วัลภมาภรค์ อาจนาเสียว โทร ๐๖๓-๖๒๖-๑๙๗๘, จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดต่อที่ ผอ.บัญญัติ สมชอบ โทร.๐๘๗-๘๗๒-๘๖๘๔​​​​  และ ผอ.ศราวุธ สิงหารา โทร.๐๙๘-๕๘๔-๒๕๐๓​​​​​​, จังหวัดภาคกลาง ติดต่อที่ ผอ.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ โทร.๐๘๓-๒๖๕-๒๖๙๓ และ ผอ.ประสงค์ กลิ่นบรม โทร.๐๖๒-๔๑๖-๕๙๔๙ และจังหวัดภาคใต้ ติดต่อที่ ผอ.โชคชัย แก้วเพิ่มพูน โทร.๐๘๑-๑๘๙-๘๑๙๕" นายรัชชัยย์ กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)