ก.ค.ศ.ไฟเขียว! ตน.วิชาการ ส.การอาชีวศึกษา-รายละเอียดคัด ผอ.วิทยาลัยอาชีวะ

ก.ค.ศ.ไฟเขียว! ตน.วิชาการในสถาบันการอาชีวศึกษา พร้อมรายละเอียดคัดเลือก ผอ.สถานศึกษาอาชีวะ 

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2564 (สัญจร) วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2564 โดยที่ประชุมมีมติที่สำคัญ ดังนี้

1.เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์เป็นกรณีพิเศษ ในสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)

โดยสืบเนื่องจาก สอศ.ได้ขอให้ ก.ค.ศ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ เป็นกรณีพิเศษ ในสถาบันการอาชีวศึกษา ซึ่งมาตรา 38 ก. วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 กำหนดให้มีตำแหน่งคณาจารย์ในหน่วยงานการศึกษาที่สอนในระดับปริญญา

มาตรา 40 กำหนดให้ตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ เป็นตำแหน่งทางวิชาการ การกำหนดระดับตำแหน่ง และการให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งคณาจารย์ ให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษามาใช้บังคับโดยอนุโลม

และมาตรา 53 (6) กำหนดให้การบรรจุและแต่งตั้งตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ ตามมาตรา 38 ก (3) ถึง (6) ให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษามาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้สภาสถาบันอุดมศึกษาทำหน้าที่แทน ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ.ที่ ก.ค.ศ.ตั้งแล้วแต่กรณี เว้นแต่ ก.ค.ศ. จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

ซึ่ง ก.ค.ศ.พิจารณาเห็นว่า สถาบันการอาชีวศึกษามีงานหลักด้านการสอนและวิจัยเทียบเคียงได้กับลักษณะงานของคณาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา โดยบริบทการจัดการเรียนการสอนของสถาบันการอาชีวศึกษาเป็นด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี การพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการก็มีหลักการเช่นเดียวกัน

ดังนั้น เพื่อให้การยกระดับวิชาชีพครูสายอาชีวศึกษาให้มีตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น และเพื่อประโยชน์ในการแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ทำการสอนในระดับปริญญาของสถาบันการอาชีวศึกษาอยู่ก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ประกาศใช้บังคับให้ดำรงตำแหน่งคณาจารย์

ก.ค.ศ.จึงเห็นชอบในหลักการให้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ เป็นกรณีพิเศษ ในสถาบันการอาชีวศึกษา

ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ดำเนินการปรับรายละเอียดตามข้อเสนอแนะของที่ประชุมและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

และ 2.เห็นชอบรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (ในพื้นที่ปกติ และพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะจังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานีและ 4 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา (อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา และอำเภอนาทวี)

โดย สอศ.ได้ขอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในพื้นที่ปกติ และในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะจังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี และ 4 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา (อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา และอำเภอนาทวี)

เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.6/ว 8 ลงวันที่ 26 เมษายน 2562 ข้อ 5 กำหนดให้ส่วนราชการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี

เมื่อส่วนราชการดำเนินการตามข้อ 5 แล้ว ให้นำเสนอ ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแจ้งคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) หรือ อ.ก.ค.ศ.ที่ ก.ค.ศ.ตั้ง ดำเนินการต่อไป

ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลฯ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด (ว8/2562) และสอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ว3/2564) จึงได้กำหนดละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

โดยรายละเอียดการดำเนินการฯที่เป็นพื้นที่พิเศษแตกต่างจากพื้นที่ปกติ มีดังนี้

- ภาค ก ความรู้ความสามารถในการบริหารงานในหน้าที่ ในเนื้อหากฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับเขตพัฒนาพิเศษฯ มีการเพิ่มเนื้อหาการทดสอบกฎหมายว่าด้วยบริหารกิจการอิสลาม

- ภาค ข ความเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ ส่วนที่ 1 (1) เรื่องระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจะพิจารณาจากระยะเวลาการปฏิบัติงานในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต.

- ภาค ข ส่วนที่ 2 วิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารงานในสถานศึกษา พิจารณาตามพื้นที่ที่สมัครเข้ารับการคัดเลือก

- ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

- เงื่อนไขการบรรจุและแต่งตั้งสำหรับผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพัฒนาพิเศษ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งฯ จึงจะขอย้ายออกนอกเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ได้

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)