ตรีนุช'ปลื้มศบค.ชุดเล็ก ผ่านฉีดวัคซีนเด็ก 5-11 ปี กำชับเข้มแผนเผชิญเหตุ เตรียมเปิดเรียน On-site

 

ตรีนุช'ปลื้มศบค.ชุดเล็ก ผ่านฉีดวัคซีนเด็ก 5-11 ปี

กำชับเข้มแผนเผชิญเหตุ เตรียมเปิดเรียน On-site

 

วันที่ 14 มกราคม 2565 : นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงผลจากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค. หรือ ศบค.ชุดเล็ก) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นำเสนอ เห็นควรให้มีการเปิดการเรียนการสอนแบบ On-site โดยสถานศึกษาดังกล่าวจะต้องผ่านการประเมิน TSC + และต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด

 

 

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการเตรียมการจัดการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนอายุ 5-11 ปี ซึ่งจากการสำรวจของ ศธ.ล่าสุด พบว่ามีผู้ปกครองให้ความยินยอมที่จะให้บุตรหลานของตนเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ถึงร้อยละ 71 จากนี้ไป ศธ.จะประสานการจัดหาวัคซีน และเตรียมขั้นตอนปฏิบัติการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนทั่วประเทศ ซึ่งจะได้แจ้งให้เด็กและผู้ปกครองได้ทราบทันที

 

“ทั้งนี้ สถานศึกษาสามารถเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทตามการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ และได้เน้นย้ำและกำชับให้ผู้บริหารทุกระดับให้ความสำคัญในการตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในกำกับของตนเองที่มีการเปิดเรียนแบบ On-site เพื่อตรวจสอบมาตรการ 6-6-7 และที่สำคัญ ศธ.โดยสพฐ.ได้เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้แล้ว ในกรณีหากพบผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

 

นส.ตรีนุช ยังได้ตอกย้ำถึงรายละเอียดและหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติแผนเผชิญเหตุ อีกด้วยว่า ครอบคลุมทั้งในระดับคุณครู ผู้บริหารสถานศึกษา และ สถานศึกษา ได้ยืดถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากพบผู้ที่มีความเสี่ยง หรือพบผู้ติดเชื้อ จะต้องรีบทำการคัดแยกเด็กดังกล่าว และรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น ประสานและแจ้งต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เข้าดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบ หลักเกณฑ์นี้เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดและเห็นชอบแล้ว  

 

 

สำหรับมาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด และทำความสะอาด  ส่วน 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ประกอบด้วย ดูแลตนเอง ใช้ช้อนกลาง กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ และกักกันตัวเอง

 

และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา ได้แก่ การประเมิน TSC+ รายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง, การทำSmall Bubble

 

ตามมาด้วยกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย ได้แก่ การจัดอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ, การอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ , การทำ School Isolation โดยมีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อม, การทำ Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียน และการจัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา

 

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)