ในหลวง-พระบรมราชินีเสด็จฯทรงเปิดอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ณคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

วันพุธ ที่  ๓๐  มีนาคม  พุทธศักราช  ๒๕๖๕ เวลา   17.28  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ณ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

          ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะกรรมการจัดหาทุน 

จากนั้น  เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี เพื่อถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ  ต่อจากนั้น  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงมณี รัตนไชยานนท์ รองคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ศิริราช  เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  และศาสตราจารย์ นายแพทย์ธวัชชัย อัครวิพุธ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างอาคาร ฯ และขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร ฯ  พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการ นวมินทรบพิตรศิริราชานุสรณ์และพื้นที่ภายในอาคาร ฯ  จากนั้น  เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา  พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์  แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม  ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการจัดสร้างอาคาร ฯ ผู้มีอุปการคุณและผู้ทำคุณประโยชน์แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก  จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ทอดพระเนตรนิทรรศการ นวมินทรบพิตรศิริราชานุสรณ์ซึ่งจัดแสดงภาพถ่ายในสายพระเนตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อโรงพยาบาลศิริราช   ภาพรวมการดำเนินงานของอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ทั้งด้านการก่อสร้างอาคาร และนวัตกรรมทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่ให้บริการภายในอาคาร ฯ 

แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรเครื่องมือรังสีรักษา ได้แก่ เครื่องฉายรังสีเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MR-LINAC) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูง นับเป็นเครื่องแรก และเครื่องเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ศูนย์รังสีรักษา   เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องประทับรับรอง เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก  สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

         

         อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา  เป็นอาคารศูนย์การแพทย์ จำนวน ๒๕ ชั้น และมีชั้นใต้ดิน ๒ ชั้น ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔  เพื่อเป็นอาคารศูนย์การแพทย์ที่ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางอย่างครบวงจร ทดแทนกลุ่มอาคาร ๓ หลังเดิมที่มีอายุการใช้งานมานานกว่า ๕๐ ปี จนเกิดความทรุดโทรมและแออัด  และเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพการให้บริการผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่ออาคารแห่งนี้ว่า อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษามีความหมายว่า อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเป็นใหญ่ รัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา

 นอกจากนี้   สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นองค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา  และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๘

สำหรับอาคาร ฯ แห่งนี้  เปิดให้บริการตรวจรักษาแก่ผู้ป่วยภายนอกและผู้ป่วยภายใน โดยให้บริการผู้ป่วยนอก ในการตรวจรักษาโรคทั่วไป และโรคเฉพาะทาง อาทิ ด้านอายุรกรรม ด้านประสาทวิทยา ด้านระบบทางเดินหายใจและความผิดปกติด้านการนอน ด้านต่อมไร้ท่อ ด้านกระดูกและข้อ ด้านรังสีวินิจฉัยและรังสีรักษา อย่างเบ็ดเสร็จ ส่วนงานบริการผู้ป่วยใน  ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยด้านอายุรกรรม จิตเวชศาสตร์ ประสาทวิทยา ออโธปิดิกส์  รังสีรักษา รวมทั้งให้บริการห้องผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อ  และหอผู้ป่วยวิกฤต  นอกจากนี้ ยังให้บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษต่าง ๆ อาทิ ศูนย์หทัยวิทยา ศูนย์วักกะวิทยา ศูนย์รังสีวินิจฉัย และศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์  ถือเป็นอาคารศูนย์การแพทย์ที่มีศักยภาพในการรองรับการบริการรักษาผู้ป่วยนอกได้ ๕๐๐,๐๐๐ คนต่อปี  และผู้ป่วยในได้ ๒๐,๐๐๐ คนต่อปี

         

        ทั้งนี้  ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงคำนึงถึงการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยและการรักษาพยาบาลของผู้เจ็บป่วยในประเทศ  ให้ได้รับโอกาสในการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกัน  เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงิน จำนวน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยล้านบาท)  ซึ่งเป็นเงินรายได้จากการจำหน่ายสมุดไดอารี่ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ สมทบทุนในการก่อสร้างอาคาร ฯ รวมทั้งเงินจากการจัดหาทุนของคณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล ส่วนหนึ่ง  และอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน  รวมเป็นเงินในการก่อสร้างอาคาร ฯ ทั้งสิ้น ๖,๐๙๓,๒๓๗,๖๑๔.๕๖ บาท (หกพันเก้าสิบสามล้านสองแสนสามหมื่นเจ็ดพันหกร้อยสิบสี่บาท ห้าสิบหกสตางค์)

 และเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงิน จำนวน๗๐๙,๘๕๐,๕๐๐ บาท (เจ็ดร้อยเก้าล้านแปดแสนห้าหมื่นห้าร้อยบาทถ้วน)  ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนได้ร่วมกันทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  และเงินรายได้จากการจัดงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์สำหรับใช้ในการรักษาพยาบาลที่อาคารดังกล่าว ทำให้มีศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์  มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นเลิศเทียบเท่ามาตรฐานสากล  อาทิ เครื่องฉายรังสีเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MR-LINAC) ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาแบบฉายแสงที่แม่นยำและตรงจุดมากขึ้น เกิดผลข้างเคียงต่ออวัยวะน้อยที่สุด  

การที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินเพื่อสมทบทุนก่อสร้างอาคาร ฯ รวมถึงการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากลสำหรับอาคารนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกร ทำให้ผู้ใช้บริการได้ยังประโยชน์ในการเข้ารับการรักษาพยาบาลและการวินิจฉัยโรคที่สะดวก รวดเร็ว มีคุณภาพและครบวงจรมากยิ่งขึ้น