ค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริรุ่น12สนองพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอด

      “...๑) มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง  ๒) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง  ๓) มีคุณธรรมและ ๔) มีงานมีอาชีพสามารถเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครัวได้และเป็นพลเมืองที่ดีมีระเบียบวินัย...

พระบรมราโชบายด้านการศึกษามุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน4 ด้านในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในการสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง    สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ได้จัดโครงการ ค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ  ( RDPB CAMP ) มาอย่างต่อเนื่อง  ปีนี้เป็นปีที่ 12 แล้วหรือจะเรียกว่าเป็นรุ่นที่ 12 ก็น่าจะได้  ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดไวรัสโควิด-19  ที่ปะทุขึ้นมาตั้งแต่ปี2562 มาจนวันนี้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ก็ยังคงรุนแรงอยู่   ไม่เฉพาะประเทศไทย  แต่เจอกันทั้งโลก  หนักหนาสาหัสสากรรจ์กันทั้งโลก

การจัดโครงการดังกล่าว  สำนักงานกปร.ได้มีการปรับรูปแบบให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้แนวพระราชดำริภายใต้ความไม่ประมาท ดำเนินการหลักกติกาของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอร์ฮอร์บ่อยๆ รักษาระยะห่าง แม้ต้องมีกิจกรรมร่วมกันแต่ก็ดำเนินด้วยมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

โครงการ ค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ  ( RDPB CAMP )รุ่น12 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน 2565   พื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  อำเภอปากพนัง  จังหวัดนครศรีธรรมราช หนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร 

นักศึกษาที่เข้าร่วมค่ายเรียนรู้งานสืบสานพระราชดำริจะได้ศึกษาทฤษฎีและลงมือปฏิบัติจริงตามฐานต่างๆ เช่นฐานปุ๋ยสูตรพระราชทาน ปุ๋ยมูลไส้เดือน ฐานหัตถกรรมกระจูด ฐานของในสวนอร่อยทุกอย่าง ฐานพอเพียง...ก็พอ  ฐานชิมน้ำ  ชมนกจากป่า ฐานนวัตกรรมเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและปลาขี้ตัง  ฐานเคาะปากลากปลา ฐานแห้วจูด กุ้งฝอยและหอยขมเป็นต้น....การได้สัมผัสปัจจัยสำคัญของสรรพชีวิตคือแหล่งน้ำ  โดยการไปเรียนรูกแหล่งน้ำเช่นอ่างเก็บน้ำห้วยใส  เป็นต้น   

                          

           การดำเนินงานของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระราชทานไว้กว่า 4,000 โครงการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ นอกจากจะเป็นการฟื้นฟู อนุรักษ์และสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสร้างความสุขและความอยู่ดีกินดีให้แก่ราษฎร

แนวทางการดำเนินงานที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การส่งเสริมรากฐานแห่งความรู้ในการประกอบอาชีพให้ราษฎร สามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเองด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ควบคู่กับการดูแลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมใหม่ๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริและพระราชกรณียกิจตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช   บรมนาถบพิตร พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไว้

ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดขยายผลพระราชกรณียกิจในทุกด้านไปสู่ราษฎร โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรอันสำคัญของประเทศ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนช่วยในการสานต่อแนวพระราชดำริไปสู่วงกว้างมากขึ้น โดยมีกระบวนการเรียนรู้ให้มีความต่อเนื่องเป็นระบบในลักษณะเรียบง่ายได้ประโยชน์สูงสุด

สำนักงาน กปร. จึงได้กำหนดจัด โครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ(RDPB Camp)  ขึ้น เพื่อเป็นการขยายผลการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการสนองพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการ สืบสาน  รักษา และต่อยอด พระราชดำริแก่ตัวแทนสถาบันการศึกษา ซึ่งจะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฏีและฝึกปฏิบัติ  ซึ่งเป็นการให้ความรู้เชิงบูรณาการผสมผสานการเรียนรู้จากพื้นที่จริง   จากเกษตรกรหรือผู้ปฏิบัติที่มีความเชี่ยวชาญจริงได้รับประโยชน์จริง  จะทำให้การถ่ายทอดความรู้สู่เยาวชนที่อยู่ในสถาบันการศึกษาต่างๆได้อย่างถูกต้องกว้างขวางยิ่งขึ้น  อีกทั้ง จะเป็นการจุดประกายความคิดที่จะสามารถนำผลสำเร็จของโครงการฯ ไปประยุกต์ปฏิบัติได้จริงทั้งต่อการศึกษาและการดำรงชีวิตให้บังเกิดความสุขพออยู่พอกิน มีชีวิตมั่นคงและยั่งยืนในสังคมสืบต่อไป

              

            ดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปีนี้เป็นปีที่12 หรือรุ่น12 ดังที่เกริ่นข้างต้นท่ามกลางโรคไวรัสโควิด-19ระบาดหนักไม่ต่างจากที่ผ่านมาสองปีแล้ว

 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดพระชนมชีพและเพื่อร่วมสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยสืบสาน  รักษา และต่อยอดพระราชดำริในสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนี

เพื่อร่วมสืบสานและเผยแพร่ขยายผลแนวพระราชดำริและผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไปสู่เยาวชนและสถาบันการศึกษาในทั่วทุกภูมิภาคของประเท

 เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีความรู้และสืบสานงานพระราชดำริ ไปยังชุมชนและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ

โครงการต่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริรุ่น 12 “สืบสาน  รักษา  ต่อยอด” มีนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศผ่านหลักเกณฑ์การคัดเลือกทีมเยาวชนเข้าร่วมโครงการคือเป็นนิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า  ไม่ว่าจะเพศชายหรือหญิงกำลังศึกษาอยู่ สัญชาติไทย อายุระหว่าง 18 - 25 ปี  สมัครเป็นทีม ทีมละ 4 คน สามารถสมัครได้มากกว่า 1 ทีม  สมาชิกภายในทีมต้องศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาเดียวกัน สามารถต่างคณะ ต่างชั้นปีได้   มีอาจารย์ที่ปรึกษา หรือผู้แทน เป็นผู้ดูแลทีมเยาวชน ทีมละ 1 คน และสามารถติดต่อประสานงานได้ตลอดเวลา   มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว หรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง   มีประสบการณ์การออกค่าย หรือกิจกรรมอื่นๆ (ถ้ามี)   ต้องไม่เคยผ่านการเข้าร่วมโครงการ RDPB Camp ตั้งแต่รุ่นที่ 1-10 ยกเว้นรุ่นที่ 11   ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม เข็มล่าสุดระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมรวมแล้ว 80 คน

จากวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดตรัง  มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี  มหาวิทยาลัยปทุมธานีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์  มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค จังหวัดพะเยา  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดสงขลา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตสกลนคร วิทยาลัยชุมชนปัตตานี มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี  มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา   มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช   มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว  มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

โครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริรุ่นที่12 ปี2565  มีวิทยาลัยสังกัดอาชีวศึกษาผ่านการคัดเลือกเข้าร่วม  2  วิทยาลัย  นับเป็นโอกาสดีของเยาวชนที่ศึกษาในระดับคาบเกี่ยวที่จะก้าวไปสู่การเรียนขั้นอุดมศึกษาเต็มร้อยในอีกไม่เกินสองปี  โดยเฉพาะสายเทคโนโลยีเกษตรที่วิทยาลัยเกษตรอาชีวะน้อมนำแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่มาเป็นรากฐานในการสอนและการลงมือปฏิบัติ การที่นักศึกษาสายอาชีวะเกษตรร่วมเข้าค่ายด้วยจะได้ไปสัมผัสการสืบสานเรียนของจริงๆในองค์กรสนองพระราชดำริโดยตรงอย่างโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร่วมไปกับเพื่อนๆพี่ๆในรั้วมหาวิทยาลัยโดยตรงอีก 18 สถาบัน

............................................................................

สุขทั้งแผ่นดิน

Edunews Siam.com