สนอว.ดันตั้งสถาบันอุดมฯเฉพาะทางกลุ่มทัศนศิลป์ ขับเคลื่อน ศก.สร้างสรรค์

สนอว.เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ ดันตั้งสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางกลุ่มทัศนศิลป์ งานฝีมือและหัตถกรรม ด้านเอกชนมีเฮ!เตรียมเสนอลดหย่อนภาษี 300% สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม 

สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สนอว.) จัดการประชุมครั้งที่ 1/2565 ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมด้วย ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคนที่หนึ่ง และ ศ.(พิเศษ) ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นรองประธานคนที่สอง พร้อมด้วยรัฐมนตรี ผู้บริหารจากกระทรวง หน่วยงานต่างๆ และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม

นายดอน เปิดเผยว่า การดำเนินงานของ สนอว.ได้เกิดผลต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน ทั้งการเกิดขึ้นของพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2564 การจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา รวมถึงการผลักดันแนวทางการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา หรือหลักสูตรแซนด์บอกซ์ ที่เปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาได้พัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษารูปแบบใหม่

การประชุมครั้งนี้ สนอว.จึงมีมติในเรื่องสำคัญ ดังนี้ 1.มอบหมายให้คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง ด้านการส่งเสริมนวัตกรรมการอุดมศึกษา พิจารณากลั่นกรองเรื่องการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษาตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย

2.เห็นชอบข้อเสนอการส่งเสริมสถาบันอุดมศึกษาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ และมอบหมาย อว.จัดทำแผนงานและมาตรการขับเคลื่อนและจัดตั้งสถาบันศิลปะโรงเรียนเพาะช่าง เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมทัศนศิลป์ งานฝีมือและหัตถกรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งต่อยอดต้นทุนทรัพยากรสร้างสรรค์ที่หลากหลายและขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน 

3.เห็นชอบในหลักการมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม 300% ระยะต่อไป มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี (2566-2570) โดยปรับปรุงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

และ 4. เห็นชอบต่อแผนดำเนินงานของภาคีความร่วมมืออวกาศไทยเพื่อพัฒนาและสร้างดาวเทียมสำหรับสำรวจและวิจัยจากวงโคจรรอบดวงจันทร์ หรือ TSC-2 เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนากำลังคนและขีดความสามารถของประเทศด้านเทคโนโลยีอวกาศ และสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งรวมไปถึงการใช้มูลค่าเพิ่มพลอยได้ที่ได้จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมอื่นๆ

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น วิศวกรรมอัตโนมัติและหุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ยานยนต์แห่งอนาคต อวกาศยาน การขนส่ง เกษตรอัจฉริยะ และเทคโนโลยีดิจิทัล"

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษากลุ่มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งภาควิชาการจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และกำลังคน รวมทั้งในระยะแรกจะขับเคลื่อนสถาบันศิลปะ โรงเรียนเพาะช่างเป็นสถาบันอุดมศึกษา โดยเป็นเรื่องที่ สนอว.เห็นพ้องต้องกันว่า จะสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศได้

เนื่องจากประเทศไทยมีต้นทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่มีคุณภาพและมีมูลค่าได้กว่าแสนล้านบาทในแต่ละปี และกลายเป็นเป้าหมายเพื่อมาเรียนรู้และท่องเที่ยวของนักเดินทางจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก

"สถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางจะมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทั้งในด้านการอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการของภาคอุตสาหกรรมและชุมชนให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมทั้งการผลิตและพัฒนากำลังคนเฉพาะทางสมรรถนะสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ"

ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวถึงประเด็นการปรับปรุงมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม 300% ว่า หลังจากนี้กระทรวง อว.และกระทรวงการคลัง จะร่วมกันปรับปรุงมาตรการยกเว้นภาษีฯ ในระยะต่อไปให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

เช่น ปรับเพิ่มเพดานงบประมาณโครงการในกรณีที่เคยมีโครงการผ่านการพิจารณามาแล้ว รวมทั้งให้เพิ่มเติมหน่วยงานของรัฐที่มีวัตถุประสงค์หรือหน้าที่และอำนาจในการให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ตามกฎหมาย พระราชกฤษฎีกา หรือกฎกระทรวงที่จัดตั้งหรือแบ่งส่วนงาน หรือหน่วยงานด้านการให้ทุนตามที่ สนอว.กำหนด

และเมื่อภาคเอกชนมีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจพัฒนากำลังคนด้าน ววน.หรือกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา สามารถอยู่ในเงื่อนไขของการใช้มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนี้ได้ โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลังดำเนินการต่อไป

"นอกจากนี้ สนอว.ยังได้พิจารณาเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ทุนของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ...ซึ่งเป็น (ร่าง) กฎหมายลำดับรองของพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2564, เห็นชอบ (ร่าง) ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมว่าด้วยจริยธรรมการวิจัยทั่วไป พ.ศ. ...และ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. ...." ปลัด อว. กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)