รมว.อว.นำทีมนักวิจัยไทยจับมือ 2 สถาบันสวิตฯ ต่อยอดรักษามะเร็งด้วยอนุภาคโปรตรอนฯ

“เอนก” นำทีมนักวิจัยไทยถกความร่วมมือกับ 2 สถาบันวิจัยของสวิตเซอร์แลนด์ เดินหน้าสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนรุ่นใหม่ ที่ระดับพลังงาน 3.0 GeV พร้อมต่อยอดการรักษามะเร็งด้วยอนุภาคโปรตรอนพลังงานสูง

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค), ดร.ปกรณ์ อาภาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และ รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธณ์ ผู้อำนวยการสถาบับวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) พร้อมกับคณะผู้บริหาร และนักวิจัยของหน่วยงาน เดินทางไปเพื่อศึกษาดูงาน ณ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน หรือ Swiss Light Source (SLS) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า SLS เป็นเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน ระดับพลังงานที่ 2.4 GeV ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ให้มีความเข้มแสงมากขึ้นและประหยัดพลังงาน มีผู้ใช้งานจากภาคการศึกษาและอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีผลงานชั้นนำมากมายอย่างต่อเนื่อง เช่น การค้นหาโครงสร้าง Spike protein ของไวรัสโควิด-19 หรือการถ่ายภาพ 3 มิติของเส้นประสาทในสมอง การพัฒนาเทคนิคการตรวจวัดแผงวงจรรวมระดับนาโนเมตร เป็นต้น

SLS เป็นหน่วยงานของ Swiss Federation ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการพัฒนากำลังคนชั้นสูงด้านแสงซินโครตรอนและการใช้ประโยชน์ โดยมีนักศึกษาปริญญาเอกเข้ามาทำวิจัยมากกว่า 700 คน ต่อปี นับเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศได้เป็นอย่างดี

ซึ่งการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ทางคณะได้มีการประชุมเพื่อหารือแนวการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ หรือ Paul Scherrer Institute (PSI) และ SLS กับหน่วยงานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) หรือ สซ. ซึ่งในปัจจุบันกำลังดำเนินโครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนรุ่นใหม่ ที่ระดับพลังงาน 3.0 GeV

"โดยหลังจากนี้ จะมีความร่วมมือที่มุ่งเน้นในเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนากำลังคน การสนับสนุนทุนวิจัย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังหารือความร่วมมือทางวิชาการด้านการรักษามะเร็งด้วยอนุภาคโปรตรอนพลังงานสูง (Proton Beam Therapy) ระหว่าง PSI กับหน่วยงานวิจัยทางการแพทย์ของประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย" รมว.อว.กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)