Edunewssiam : ประเด็นร้อน สุจริต คือ เกราะป้องผองภัย อย่ามาขู่’ให้ยาก

Edunewssiam : จับกระแสข่าวเด่น

 

สุจริต คือ เกราะป้องผองภัย อย่ามาขู่ให้ยาก

ตุลย์ ณ ราชดำเนิน : tulacom@gmail.com

เมื่อกลุ่มผู้เข้ารับการคัดเลือก ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวนหนึ่ง ได้ส่งหนังสือถึง นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ขออุทธรณ์ โต้แย้ง ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือก จำนวนทั้งหมด 498 ราย เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามประกาศลงวันที่ 1 กันยายน 2565 นั้น มีใจความดังสาระสำคัญว่า

 

 

ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้เข้ารับการคัดเลือกในการสอบคัดเลือกครั้งนี้ และเป็นผู้ได้รับคัดเลือกลำดับที่ ………ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ผลการจัดลำดับผู้ได้รับการสรรหาตามประกาศที่อ้างถึงดังกล่าว มีความน่าเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ

ด้วยเหตุที่ผู้ได้รับการสรรหาบางราย มีความรู้ความสามารถที่ไม่น่าจะถูกจัดไว้ในลำดับสูง เพราะไม่ว่าจะพิจารณาจากการประเมิน ทั้ง ภาค ก ภาค ข และภาค ค ผู้เข้าสอบคัดเลือกสามารถประเมินได้ว่า บุคคลใดสมควรได้รับการประเมินในระดับใด โดยเฉพาะการประเมินในภาค ข และภาค ค

แต่ตามประกาศผลดังกล่าวขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงของแต่ละบุคคล

ซึ่งหากเป็นดังกรณีที่กล่าวมา ย่อมมีผลเท่ากับมีการจัดลำดับที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามความเหมาะสม และการจัดลำดับทั้งหมดทุกลำดับก็ย่อมเกิดความเคลือบแคลงสงสัย ส่งผลให้การคัดเลือกไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ที่ได้ในลำดับที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงผลการคัดเลือกของข้าพเจ้าด้วย

หากการคัดเลือกเป็นไปโดยสุจริต ถูกต้อง และเป็นธรรม ย่อมสามารถแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่า ผู้ได้รับคัดเลือกในแต่ละลำดับที่ มีผลคะแนนเป็นอย่างไร และเพื่อให้การประกาศผลฯ เป็นไปอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม อันจะเป็นที่ยอมรับของผู้เข้ารับการสรรหาทุกรายเป็นไปอย่างถูกต้อง

ข้าพเจ้า จึงขออุทธรณ์โต้แย้งผลการคัดเลือกตามประกาศฯ ดังกล่าวว่า ไม่ถูกต้อง ชอบธรรม จึงขอให้ชี้แจงแสดงข้อเท็จจริงถึงกระบวนการสรรหา หลักเกณฑ์การพิจารณา และผลคะแนนทั้งหมด ทั้งภาค ก ภาค ข และ ภาค ค ของผู้เข้ารับการสรรหาทุกราย ตลอดจนผลการให้คะแนนของกรรมการแต่ละคนที่ให้คะแนนแก่ผู้เข้ารับการสรรหาเป็นรายคนทั้งหมดของผู้เข้ารับการสรรหา

การดำเนินการดังกล่าวนี้ จะเป็นผลดีต่อการบริหารงานของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาพรวม และความเชื่อมั่นต่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และส่งผลต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้แก่สังคมและประเทศชาติ

ทั้งนี้ หนังสืออุทธรณ์ฉบับนี้ มีความประสงค์ที่จะโต้แย้งผลการคัดเลือกตามประกาศฯ ดังกล่าว เพื่อให้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง

ยังตามมาด้วยที่กล่าวมาข้างต้น และเป็นขั้นตอนการดำเนินการก่อนการฟ้องคดีต่อศาล ตามมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ หากในกรณีที่เห็นว่า คำชี้แจงหรือผลการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ถูกต้องอย่างไร ข้าพเจ้าจำเป็นต้องใช้สิทธิตามกฎหมายในทุกกรณีต่อไป

จบลงด้วยถ้อยคำที่สะดุดใจว่า...ขอเรียนให้ทราบเป็นการเบื้องต้นว่า จะดำเนินการจนถึงที่สุด หากมีมูลความผิดทางอาญาจะดำเนินการร้องเรียนเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุดแก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งปวงด้วย ทั้งนี้ให้โปรดพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ภายในเวลาที่กฏหมายกำหนดด้วย

 

 

เมื่อมาลักษณะนี้แล้ว... ดูเหมือนว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตอบไปว่าส่วนตัวมองเป็นการร้องเรียนตามขั้นตอนปกติ และการจัดสอบก็ได้ย้ำกับ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดศธ. และ นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ ได้ทำตามหลักธรรมาภิบาลโปร่งใส เชื่อว่าทั้งสองสามารถตอบได้ทุกข้อสงสัย ม่ว่าจะเป็นการสอบภาค ก ภาค ข โดยจะดูในเรื่องของผลงานต่าง ๆ ทุกอย่างพยายามให้เป็นวิทยาศาสตร์ สามารถชี้วัดได้มากที่สุด

ส่วนใครที่มีความประสงค์จะขอดูคะแนน ก็สามารถทำเรื่องสอบถามมาได้ที่ สำนักงานก.ค.ศ. 

การมีผู้ขอให้ชะลอการบรรจุแต่งตั้งออกไปก่อนนั้น คงไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากงานของ ศธ.จะต้องมีเขตพื้นที่ช่วยขับเคลื่อน และ ผอ.สพท.ก็ว่างอยู่ จึงมีความจำเป็นที่ต้องบรรจุแต่งตั้ง เพื่อให้นโยบายเร่งด่วนด้านการศึกษามีความต่อเนื่อง อีกทั้งการสอบจัดสอบทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ซึ่งในภาพรวมการสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกขั้นตอน มีความโปร่งใสและเชื่อมั่นว่าเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลแน่นอน ไม่มีเหตุการณ์ชวนสงสัยว่าจะเป็นไปตามข่าวที่ออกมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยังมีประกาศให้ผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงามเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 498 ราย รายละเอียดตามบัญชีรายชื่อ การบรรจุและเต่งตั้ง การประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ เพื่อพัฒนาการศึกษา และการจัดทำข้อตกลงในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ให้เป็นไปตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/12 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2565

ในหนังสือยังกำกับความสำคัญอีกด้วยว่า กรณีที่ตรวจสอบกายหลังพบว่า ผู้ได้รับการคัดเลือกรายใด เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครและตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ถือว่า ผู้นั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

หรือหากมีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ จะหมดสิทธิ หรือถูกยกเลิก หรือถูกเพิกถอนสิทธิในการบรรจุและแต่งตั้ง โดยไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ และต้องถูกดำเนินการทางวินัยด้วย กรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทั้งนี้ หากผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งแล้วต้องถูกเพิกถอนคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งตั้ง และจะเรียกร้องสิทธิใด ๆ มิได้

 

 

ประกาศนี้ ลงนามโดย นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ คนที่ประกาศตัวมาตลอดว่า ตราบใดที่ยังนั่งในตำแหน่งปลัดฯ ทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส และ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ยิ่งได้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ.เข้ามาช่วยเป็นเสาหลักยืนยันค้ำอยู่ข้าง ๆ ด้วยแล้ว

อย่ายกใครต่อใครมาขู่ซะให้ยาก ด้วยมั่นใจว่า “สุจริต คือ เกราะป้องผองภัย” ดีไม่ดี หากมีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ จะหมดสิทธิ หรือถูกยกเลิก หรือถูกเพิกถอนสิทธิในการบรรจุและแต่งตั้ง โดยไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ และต้องถูกดำเนินการทางวินัยด้วย

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)