'รอง ผอ.ร.ร.หื่น' ทำงามหน้าอีกแล้ว...แม่เด็กร้องเอาผิด โชว์รูปโป๊-ทำอนาจาร ลูกสาวเด็กพิเศษวัย 17

 

'รอง ผอ.ร.ร.หื่น' ทำงามหน้าอีกแล้ว...แม่เด็กร้องเอาผิด โชว์รูปโป๊-ทำอนาจาร ลูกสาวเด็กพิเศษวัย 17

รายงานข่าวจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ วันที่ 29 กันยายน 2565 โดยสองพิธีกรคนดัง ช่อง 3 นำเรื่องราวผอ.ร.ร.หื่น'แห่งหนึ่ง ทำฉาวอีกแล้ว...แม่เด็กร้องปวีณา เอาผิด โชว์รูปโป๊-ทำอนาจาร ลูกสาวเด็กพิเศษวัย 17 ที่กำลังแชร์กันในโชเชี่ยล เกิดขึ้นวานนี้ (28 ก.ย. 65) เมื่อเวลา 19.00 น. พ่อกับแม่ของน้องพลอย อายุ 17 ปี ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี

โดยแม่ของน้องพลอย อายุ 17 ปี เล่าว่า ลูกสาวซึ่งมีความบกพร่องทางสติปัญญาพัฒนาการช้ากว่าเด็กปกติ ได้ถูกรองผู้อำนวยการโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง เรียกตัวลูกสาวมาพบ จากนั้น รอง ผอ. ได้ชักชวนลูกสาวออกไปทานข้าวนอกโรงเรียนวันหยุดเรียน หลังจากนั้น รอง ผอ. ก็ได้เปิดรูปภาพโป๊ในโทรศัพท์ให้ดู ลูกสาวได้ลุกขึ้นจะออกจากห้องระหว่างนั้น รอง ผอ. ได้เดินเข้าไปประชิดตัวลูกสาว และได้ทำอนาจารลูกสาว

โดยการใช้มือล้วงเข้าไปในกระโปรงและจับอวัยวะเพศ ซึ่งขณะนั้นมีครูคนอื่นนั่งก้มหน้าทำงานอยู่ในห้องนั้นด้วย 1 คน ลูกสาวรีบเดินออกมาจากห้อง แล้วนำเรื่องมาบอกเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนจึงได้นำเรื่องไปแจ้งครูประจำชั้น หลังเลิกเรียนแม่รับลูกสาวที่โรงเรียน จึงทราบเรื่องจากลูกสาวและครูประจำชั้น แม่จึงได้ติดต่อครูประจำชั้นลูกสาวเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ซึ่งขณะนั้นครูประจำชั้นนั่งอยู่กับ ผอ.โรงเรียน และได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดย ผอ. ได้นัดให้แม่เข้าพบอีกครั้งในวันที่ 28 ก.ย. 65 เพื่อจะเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู วันนี้แม่ตัดสินใจพาลูกสาวเข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯช่วยประสานตำรวจดำเนินคดี

ซึ่งขณะนี้สภาพจิตใจแม่แย่มาก และลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียน เพราะโรงเรียนไม่ปลอดภัยอีกต่อไป และแม่จะบอกรองผอ.คนนี้ตลอด ถึงพัฒนาการของลูกสาวที่ช้า ตอนนี้ลูกสาวอายุ 17 ปี แต่พัฒนาการเหมือนเด็กอายุ 10 ขวบ

ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้สอบถามข้อมูลจาก น.ส.พลอย ด้วยตนเอง โดยพ่อ-แม่ เด็กนักเรียนมีความประสงค์จะแจ้งความ จึงได้ประสาน พ.ต.อ.วสุ เชื่อพุทธ ผกก. สน.บางชัน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรองผู้อำนวยการโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งใน กทม. ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีให้เป็นไปอย่างเป็นธรรม

ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล พาพ่อและแม่ของ น.ส.พลอย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านบางชัน เข้าพบเข้าแจ้งความ ที่ สภ.บางชัน เพื่อดำเนินคดีกับ รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ กรณี น.ส.พลอย อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว มีความบกพร่องทางสติปัญญาพัฒนาการช้า ถูกหลอกไปที่ห้องทำงานเพื่อให้ดูรูปโป๊และกระทำอนาจาร เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา

"ทางคุณแม่เด็กก็มีหลักฐานทุกอย่างที่จะนำมาให้ตำรวจ และทางมูลนิธิก็จะมีการติดตามสภาพจิตใจและจะพาไปบำบัดฟื้นฟูสุขภาพจิตของโรงพยาบาลตำรวจ (ศูนย์พึ่งได้) " นางปวีณา กล่าว.

ด้าน พ.ต.อ.วสุ เชื่อพุทธ ผกก.สน.บางชัน กล่าวว่า ขั้นตอนแรกจะเริ่มสอบปากคำคุณแม่ผู้เสียหายไว้ก่อน เพื่อรับทราบหตุการณ์และประมวลว่าผิดกฎหมายข้อใดอย่างไร เบื้องต้นเชื่อว่า พฤติการความผิดเกิดขึ้นจริง โดยจะเริ่มสอบปากคำตั้งแต่คืนนี้ และจะส่งตัวน้องพลอย (ผู้เสียหาย) ไปตรวจร่างกาย ทั้งร่องรอยต่างๆ และความรู้สึกนึกคิดตามที่คุณแม่บอก

ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นถึงรอง ผอ.โรงเรียนนั้น จะเห็นได้ว่าสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นใครมีตำแหน่งอะไรก็ต้องหาคดีความผิดได้เหมือนกันทั้งนั้น จึงไม่ได้กังวลอะไร ว่ากันไปตามกระบวนการหรือหลักฐานและจะดำเนินการอย่างเต็มที่ตามอำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายให้ไว้

ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวเรื่องนี้ ดูเหมือนว่า กระทรวงศึกษาธิการ ตกอยู่ท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์มากมายในทำนองไม่จริงจังในการดูแลและลงโทษอย่างจริงจัง จนทำให้ นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาย้ำแถลงว่า ตามที่มีการล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน ทั้งจากนักเรียนด้วยกัน จากครูและบุคลากรทางการศึกษา ในหลายกรณีนั้น

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้สั่งการไปยังผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ การล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน ทั้งจากนักเรียนด้วยกัน จากครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะจากครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีหน้าที่ดูแลนักเรียน เป็นผู้ที่ต้องช่วยเหลือนักเรียน หากมากระทำผิดเสียเอง ต้นสังกัดต้องดำเนินการทางกฎหมายและลงโทษทางวินัย ต้องไม่ยอมให้มีระบบการประนีประนอมยอมความ มีการต่อรองใดๆทั้งสิ้น ทั้งกับผู้ปกครอง นักเรียน ครู ผู้บริหาร หรือจากใครคนใดทั้งสิ้น

ส่วนนักเรียนผู้ถูกกระทำ ศธ.ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ดูแลเยียวยาจิตใจ โดยครูแนะแนว นักจิตวิทยา และหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกับผู้ปกครองอย่างเร่งด่วน ให้กำชับผู้บริหารทุกระดับ กวดขันบุคลากรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลนักเรียน ปฎิบัติตามแนวทางความปลอดภัยในสถานศึกษา วางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุล่วงละเมิดขึ้นอย่างเร่งด่วน

หากหน่วยงาน หรือสถานศึกษาใดเกิดเหตุ จะถือเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารนั้นๆด้วย ซึ่งสังคมต่างจับจ้องดูว่าจะเป็นไปตามที่กล่าวไว้ข้างต้นอย่างรวดเร็วและจัดการจริงจังหรือไม่ 

ขอบคุณภาพและข่าว เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)