'ตรีนุช' ยังไม่ผ่าน ตั้ง 'ศธภ.'12 ภาค ขอศึกษาความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนสรรหาเลขาฯสกสค.ให้ปรับเกณฑ์ อีกรอบ

'ตรีนุช' ยังไม่ผ่าน ตั้ง 'ศธภ.'12 ภาค ขอศึกษาความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนสรรหาเลขาฯสกสค.ให้ปรับเกณฑ์ อีกรอบ    

รายงานจากกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งว่า จากการที่ นายอรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ.ได้หารือ กับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้ดำเนินการสรรหาบุคลากรระดับสูงในสำนักงานปลัด ศธ. ที่ยังค้างคา รวมถึง ศึกษาธิการจัดหวัด (ศธจ.) แทนตำแหน่งว่าง จากเดิมที่แต่งตั้งไปแล้ว 5 อัตรา แต่เกษียณอายุราชการไปแล้ว 2 อัตรา จะต้องแต่งตั้งเพิ่มอีก 7 อัตรา รวม 9 อัตรา เพื่อให้ครบทั้ง 12 ภาค และศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ตามที่กำหนดไว้ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 พ.ศ.2560 นั้น

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ยังต้องดูรายละเอียดเนื้องานต่าง ๆ ว่าจำเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึง พิจารณาความเหมาะสม โดยขอเน้นการแต่งตั้งบุคลากรที่มีความจำเป็นต่อการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาก่อน

ส่วนข้อเสนอให้แต่งตั้ง ศธภ.ครบทั้ง 12 ภาคนั้น ยังต้องรอดูรายละเอียด และความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับเนื้องานจริง ๆ ข้อกฎหมาย รวมถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น

โดยเฉพาะขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ... กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวาระ 2 และ 3 คาดว่า ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ น่าจะผ่านสภาก่อน ดังนั้น ต้อง เตรียมพร้อมกฎหมายลูก เพื่อรองรับกฎหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นด้วย  น.ส.ตรีนุชกล่าว

ในส่วนความคืบหน้าการสรรหา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นั้น คณะกรรมการ สกสค.เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.ไปรอบหนึ่งแล้ว โดยที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ขอให้ คณะกรรมการยกร่างหลักเกณฑ์ ดังกล่าว ไปปรับเกณฑ์รายละเอียด

เท่าที่ทราบได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนประกาศปฏิทินการสรรหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในต้นเดือนธันวาคม 2565 ส่วนการสรรหาผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.นั้น จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกัน โดยขอให้เร่งดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีผู้ที่เหมาะสมเข้ามาบริหารจัดการหน่วยงานทั้ง 2 แห่ง ให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อครู และบุคลากรทางการศึกษา อย่างแท้จริง

ก่อนหน้านี้ นายอรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ.เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า... เท่าที่ดูข้อกังวลของรัฐมนตรีว่าการศธ.เป็นเรื่องการทำงานของ ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และ ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ที่จะไม่สอดคล้องกับโครงสร้างใหม่ จึงมอบหมายให้คณะอนุกรรมการฝ่ายโครงสร้าง แต่งตั้งไปแล้ว จำนวน 10 คณะ ร่วมกันพิจารณา จัดทำปฏิทินการดำเนินการเรื่องโครงสร้าง เรื่องจำนวน และกฎหมายลูก สิ่งที่ต้องดำเนินการ ให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.การศึกษาฯ ฉบับใหม่ โดยยึดประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนและสถานศึกษาเป็นสำคัญ

รวมไปถึงจัดทำบทบาทของศธภ. และศธจ.ให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการทำงานในพื้นฐาน อีกทั้งบทบาท ศธภ.และศธจ. ควรแสวงหาความร่วมมือผลักดันงานนโยบายของศธ.ส่วนกลางให้ไปสู่สถานศึกษา ไปสู่สถานศึกษา ภายในงบประมาณที่จำกัด

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam   

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage