“ตรีนุช” ชื่นชมชัยภูมิ เคลื่อนนโยบายพัฒนาชัดทุกมิติ ฝากเรียนสอนประวัติศาสตร์ ให้เด็กเห็นคุณค่าแต่ละยุคสมัย

รายงานจาก เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ชัยภูมิ เขต 1 จังหวัดชัยภูมิ ถึงการลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย ของ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) โดยมี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวต้อนรับ และ นายนิวัฒน์ แก้วเพชร ผู้อำนวยการ สพป.ชัยภูมิ เขต 1 กล่าวรายงานภาพรวมการจัดการศึกษาของจังหวัดชัยภูมิ พร้อมนำเยี่ยมชมบูทนิทรรศการของสถานศึกษาต่าง ๆ

จากการมาร่วมงาน นางสาวตรีนุช กล่าวชื่นชมทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชัยภูมิว่า จากการที่สพป.ชัยภูมิ เขต 1 ร่วมกับ อาชีวะศึกษา จังหวัดชัยภูมิ จัดการเรียนการสอนอาชีพให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 56 โรงเรียน ใน 15 สาขาอาชีพ รวมนักเรียน 3,200 คน ทำให้นักเรียนมีทักษะอาชีพ รู้ความถนัดของตัวเอง และสามารถต่อยอดในการเรียนในระดับสายอาชีพที่สูงขึ้น เท่ากับนำนวัตกรรมหรือวิธีปฏิบัติที่ดี (Best practice) จึงขอฝากให้มีการต่อยอดสู่หลักสูตรทวิศึกษาในสถานศึกษาที่มีความพร้อม ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องทักษะอาชีพ

ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) อื่น ๆ ก็มีการจัดหลักสูตรท้องถิ่นเพื่อทักษะอาชีพ ต่อยอดภูมิปัญญา Soft Power ที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจและการประกอบอาชีพในท้องถิ่น เช่น โครงการอารยเกษตรฯ โรงเรียนวัวที่สอนวิชาปศุสัตว์การเลี้ยงวัว โครงงานอาชีพผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า เป็นต้น

กล่าวอีกว่า...การลงพื้นที่ตรวจติดตามงานครั้งนี้ ทำได้เห็นภาพการขับเคลื่อนการศึกษา เพื่อพัฒนาเยาวชนให้สอดรับกับความต้องการของบริบทพื้นที่ ความพยายาม ความมุ่งมั่นในการนำนโยบายของ ศธ. สู่การปฏิบัติ เช่น ผลงานการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ โครงการปลูกปัญญาภาษาอังกฤษ ที่ชมรม HIC ELS เสริมทักษะทางภาษาเพื่อสังคมไทย และมีการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้กับต่างประเทศ ดิฉันเชื่อมั่นว่า จังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่ขับเคลื่อนการศึกษาได้อย่างเข้มแข็ง

“...จึงขอชื่นชมที่ทุกเขตพื้นที่ฯ ที่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ. เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนครบทุกมิติ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชน จังหวัด และหน่วยงานการศึกษา ที่ร่วมกันดำเนินงานแบบบูรณาการ” รมว.ศธ.กล่าว

กล่าวต่อด้วยว่า ในบทบาท ของ รมว.ศธ. ตนได้สนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียน โดยผลักดันให้มีการเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัว การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเพิ่มเงินอุดหนุนอาหารกลางวัน จึงขอให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อย่างไรก็ตาม ศธ.จะมีการแยกรายวิชาประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชา อย่างเป็นทางการ ขอฝากเรื่องการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ กับ soft power และช่วยกันว่า จะทำอย่างไรให้กระบวนการเรียนการสอนประวัติศาสตร์เป็นมากกว่าการท่องจำ เป็นการเรียนที่มีความสุข เด็กได้เห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัย เด็กจะได้ภาคภูมิใจ ได้เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ไปกับกระบวนการต่าง ๆ ไปด้วย 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage