ยุ่งแล้ว! ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ ศธจ.ล่าชื่อ 4 พันค้านยุบหน่วยงาน...ศึกษานิเทศก์’ ขอแจมคงสิทธิวิทยฐานะ ร้องตรีนุช”ทบทวน

 

ยุ่งแล้ว! ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ ศธจ.ล่าชื่อ 4 พันค้านยุบหน่วยงาน...ศึกษานิเทศก์ ขอแจมคงสิทธิวิทยฐานะ ร้องตรีนุช”ทบทวน

กลายเป็นประเด็นร้อนท่ามกลางกลางเมืองระอุ ขณะเดียวกันให้จับตาความเคลื่อนไหว ตัวแทนจากศึกษาธิการจังหวัด ล่ารายชื่อกว่า 4 พันคน ผนึกกำลังค้านคำสั่งยุบเลิก ศธจ.ในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ...ในมาตรา 3 (10 ) วอน ตรีนุช" ทบทวนด่วน สมทบด้วยเรื่องเก่าคาใจจาก กลุ่มผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและศึกษานิเทศก์ ไม่เห็นด้วยในประเด็นต่อไปที่จะไม่มีเงินวิทยฐานะ ขอคงสิทธิเหมือนเดิม                                                                         

รายงานจากกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 09.00 น. แจ้งว่า มีตัวแทนจากศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เข้าพบ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอทบทวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ในมาตรา 3 (10) ที่ให้ยกเลิกศึกษาธิการจังหวัด ฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร

 

โดย นายณัทชัย ใจเย็น ตัวแทนศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า... หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ประกาศใช้โดยไม่มีการทบทวนในประเด็นดังกล่าว จะมีผู้ได้รับผลกระทบจากการยุบเลิกหน่วยงาน ศธจ. ทั้งบุคลากรทางการศึกษาอื่นและพนักงานลูกจ้างกว่า 3,000 คน จะไม่สามารถปฎิบัติงานราชการได้อีกต่อไป จะมีผลกระทบต่อการงานทำงานในพื้นที่อย่างมาก เช่น โรงเรียนเอกชนที่ ศธจ. ดูแลอยู่จะต้องหยุดชะงักทันที การจัดการศึกษาทางเลือกที่ต้องได้รับการอนุมัติจาก กศจ. รวมถึงงานวิชาการที่ต้องส่งเสริมคุณภาพการศึกษา เป็นต้น

 

อีกทั้งการแยกงานบริหารบุคคลออกจาก กศจ. ไปอยู่ที่เขตพื้นที่ก็จะทำให้องค์ประกอบของ อกคศ. เขตพื้นที่ไม่มีผู้แทน กศจ. เข้าไปเป็นกรรมการด้วยทำให้ทำหน้าที่ได้ไม่ครบ ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการเรื่องการเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและการเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วย ทั้งนี้ พวกเราจะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ กมธ.วิสามัญฯ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทบทวนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้

 

นายณัทชัย กล่าวอีกว่า... พวกเรามีรายชื่อมีการคัดค้านคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งหมด 4,437 คน และรู้สึกกังวลใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมากว่า อาจจะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบ เพราะสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงต้องมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ทั้งวิปรัฐบาลและวิปฝ่านค้าน แต่สุดท้ายเชื่อมั่น รมว.ศึกษาธิการ ที่จะดำเนินการประสานเรื่องนี้ให้มีการทบทวนเกิดขึ้น”

 

 

 

ด้าน นายณัทชัย ใจเย็น กล่าวว่า ส่วนตัวมั่นใจในตัวรัฐมนตรีว่าการศธ. แต่ยังกังวล เพราะการเมืองยังไม่มีความแน่นอน ดังนั้น หลังจากนี้ตัวแทน ศธจ.จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ผู้นำฝ่ายค้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณายกร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ถึงการบริหารราชการเชิงพื้นที่จังหวัดเป็นฐานให้สามารถทำงานต่อไปได้

 

"ขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อขอให้แก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วกว่า 4,437 คน ซึ่งมีทั้งข้าราชการ บุคากร ศธจ. ศธภ. ลูกจ้าง และบุคาลกรโรงเรียนเอกชน ฯลฯ ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ ฉบับนี้ประกาศใช้โดยที่ยังไม่ยกเลิก มาตรา 3(10) จะส่งผลให้ ศธจ.และศธภ.ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ตามกฎหมาย เพราะกฎหมายที่ให้อำนาจถูกยกเลิก จะกระทบต่อการทำงานในพื้นที่ กศจ. จะไม่สามารถอนุมัติเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้

 

อาทิ การจัดการศึกษาในรูปแบบโฮมสคูล ที่ให้อำนาจ กศจ.ในการอนุมัติ จะหยุดชะงักทันที การจัดการศึกษาท้องถิ่น รวมถึงงานที่ได้ทำความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ก็จะต้องยุติทันที ส่งผลให้ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษาฯ ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ เนื่องขาดองค์ประกอบหลัก คือผู้แทนจาก กศจ. ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนขั้นเงินเดือน การเลื่อนวิทยฐานะต่าง ๆ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ" นายทัตชัย กล่าว 

 

 

อย่างไรก็ตาม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า... รัฐบาลให้ความสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ตนเองก็มีความห่วงใยของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ในวันนี้ผู้แทนศึกษาธิการจังหวัด ก็ได้มานำเสนอให้เห็นว่า ในมาตรา 3 การยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ จะมีการยกเลิกศึกษาธิการจังหวัด ยุบสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และตนเองก็ยังเห็นด้วยว่า ถ้าหากยุบเลิก จะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานศึกษาธิการภาคทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของ ศธ. เห็นว่า ยังจำเป็นต้องมีหน่วยงานนี้อยู่ เพื่อเป็นผู้แทนของกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัด และในภูมิภาค นั้น ๆ แน่นอน

 

 

กล่าวต่อว่า... ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและศึกษานิเทศก์ ก็ได้มานำเสนอให้ตนทราบว่า ไม่เห็นด้วยในประเด็นที่ต่อไปจะไม่มีเงินวิทยฐานะให้แก่กลุ่มดังกล่าว ซึ่ง ศธ.เห็นว่าจำเป็นที่ต้องปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้ทุกคนได้คงสิทธิตามเดิมพร้อมกันนี้ยังมีอีกหลายมาตราที่จำเป็นต้องปรับปรุง เช่น ในส่วนที่เกี่ยวกับการให้ทุกโรงเรียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งหมายรวมถึงโรงเรียนของรัฐทุกประเภทที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด ศธ. ด้วย

 

อาทิ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนสังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โรงเรียนในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้มอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เชิญผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนมาร่วมให้ความคิดเห็น เพื่อเป็นเสียงสะท้อนต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่ง สกศ. จะรวมรวบข้อคิดเห็น โดยจะมีการนำข้อเรียกร้องของ ศธจ. มาวิเคราะห์เข้าไว้ด้วย เพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต่อไป

 

รายงานจากแหล่งข่าวอดีตข้าราชการระดับสูง กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความเคลื่อนไหวของตัวแทนจากศึกษาธิการจังหวัด ที่ออกมาล่ารายชื่อกว่า พันคน ต่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ.พื่อขอทบทวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …ให้ยกเลิกศึกษาธิการจังหวัด ครั้งนี้ น่าจะมีส่วนผลักดันจากใครบางคนในศธ.ที่พยายามให้มีการแต่งตั้งให้ครบในทุกจังหวัดที่ค้างท่อกันอยู่เพื่อให้ครบ 12 ภาค หรืออาจจะเป็นเจตนาดีโดยไม่มีอะไรเคลือบแฝงก็ได้ 

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

 

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage