สบอท.แห่งประเทศไทย ยื่นประธานกมธ.หนุน "กฎหมายอาชีวะสั่งตัดโดยเฉพาะ" ในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ หวังปฏิรูป

สบอท.แห่งประเทศไทย ยื่นประธานกมธ.หนุน "กฎหมายอาชีวะสั่งตัดโดยเฉพาะ" ในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ หวังปฏิรูป

รายงานจากผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (สบอท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายตวง อันทะไชย ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... และ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมผลักดันร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ให้ร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

นายทวีศักดิ์ ย้ำว่า...เนื่องจากเป็นกฎหมายแม่ด้านการศึกษา เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการศึกษาหลายภาคส่วน และยังวางหลักเกณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายลูกด้านการศึกษาที่จะออกมาอีกประมาณ 13 ฉบับ เป็นกฎหมายด้านการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 258 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งเวลานี้ ประชาชนทุกภาคส่วน มีความหวังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการการศึกษาของประเทศมาก โดยเฉพาะด้านอาชีวศึกษา ซึ่งจะต้องผลิตกำลังคนมีทักษะฝีมือ มีเจตคติที่ดีต่อในการทำงาน เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น ร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่นี้ จึงควรที่จะได้มีการเขียนกฎหมายในส่วนของการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาให้ดีมีความรอบคอบมากที่สุด

กล่าวอีกด้วยว่า...ตนได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นในส่วนของผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา ครู บุคลากรนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง สถานประกอบการ ผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วน ล้วนมีความเห็นที่สอดคล้องตรงกันว่า อยากจะเสนอเพิ่มเติมให้มีการบัญญัติในเรื่องของการอาชีวศึกษา ต้องออกเป็น "กฎหมายอาชีวะสั่งตัดโดยเฉพาะ"

ซึ่งทางสมาคมฯ จึงขอยื่นเสนอให้มีการบัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับนี้โดยเฉพาะใน มาตราที่ 71 และ 72 หรือในมาตราใดมาตราหนึ่งในเรื่องของการจัดการอาชีวศึกษาไว้เป็นการเฉพาะเหมือนใน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ฉบับปัจจุบันนี้ ซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 20 โดยเสนอให้ออกเป็น พรบ.การอาชีวศึกษา ภายหลังจากที่กฎหมาย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ผ่านรัฐสภาแล้ว

นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวะ กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ตนต้องขอขอบคุณทางรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้เปิดโอกาสให้มีการทบทวนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้อีกครั้ง ก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมร่วมของรัฐสภาในเร็ว ๆ นี้ 

ถ้าร่าง พรบ.บัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ผ่าน ระบบการศึกษาของประเทศ น่าจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เป็นประโยชน์หลายประการแน่นอน เพราะเท่าที่ได้ติดตามดูเนื้อหาในมาตราต่าง ๆ ก็มีจุดแข็งหลายประการ เช่น ลดอำนาจการบริหารที่ส่วนกลาง ลดอำนาจการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ไปเพิ่มอำนาจที่เขตพื้นที่และสถานศึกษา ทำให้การแก้ปัญหาในพื้นที่และสถานศึกษาทำได้รวดเร็วส่งผลดีต่อนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองและสถานประกอบการ

นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง 

หากดูในภาพรวมเท่ากับเป็นกฎหมายใหม่ที่มองไปถึงอนาคต แต่อาจจะมีบางมาตราที่อาจจะกระทบบุคลากร ซึ่งอาจจะต้องมีการทบทวน และวางแผนระยะสั้นระยะยาวเพื่อรองรับการปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้ ตนคิดว่าทางกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลคงเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และถ้าจะมีปัญหาอยู่บ้าง คงเป็นปัญหาในช่วงต้น ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่เชื่อว่าในที่สุดแล้วทุกอย่างจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายแน่นอน

“...ต่อไปการบริหารราชการที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค คงต้องกระจายอำนาจไปที่พื้นที่ทำให้สถานศึกษามีอำนาจมากขึ้น ยังให้สถานศึกษาที่พร้อมเป็นนิติบุคคล สถานศึกษามีคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาที่เข้มแข็ง ที่ต้องจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติและตอบโจทย์การจัดการศึกษาในพื้นที่มีกองทุนการศึกษาแห่งชาติ...”  นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (สบอท.) กล่าวปิดท้าย ด้วยอารมณ์ดี

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

 

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage