ครม.อุดช่องนักเรียนตั้งท้อง ออกกฎเหล็ก ห้ามกดดัน ย้าย-ให้ออก

ครม.อุดช่องนักเรียนตั้งท้อง ออกกฎเหล็ก ห้ามกดดัน ย้าย-ให้ออก

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้

 

วันนี้ (13 ธันวาคม 2565) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็น ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล สรุปมติเห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ โดยผ่านสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้

 

ทั้งนี้ ศธ. เสนอว่า ตามที่ได้มีกฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษา ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2561 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ได้กำหนดประเภทของสถานศึกษา และการดำเนินการของสถานศึกษาแต่ละประเภทเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยข้อ 7 แห่งกฎกระทรวงดังกล่าว

 

...ที่กำหนดให้สถานศึกษาที่มีนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์อยู่ในสถานศึกษา ต้องไม่ให้นักเรียนหรือนักศึกษานั้นออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็นการย้ายสถานศึกษา นั้น มีสภาพปัญหาในทางปฏิบัติ ผู้บริหารสถานศึกษา มักจะบังคับนักเรียนหญิงซึ่งตั้งครรภ์ออกจากสถานศึกษาเดิม โดยให้ย้ายไปศึกษาต่อในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)...

 

ซึ่งในคราวประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบให้ ศธ. ปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2561 ในข้อ 7 “ต้องไม่ให้นักเรียนหรือนักศึกษานั้นออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็นการย้ายสถานศึกษาตามเจตนารมณ์ของนักเรียนหรือนักศึกษาที่ตั้งครรภ์”

 

ศธ.ได้ยกร่างกฎกระทรวง ในคราวประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ครั้งที่ 2/2564เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ดังนี้

 

กฎกระทรวง (เดิม) ข้อ 7 สถานศึกษาตามข้อ 2 * ที่มีนักเรียนหรือนักศึกษา ซึ่งตั้งครรภ์อยู่ในสถานศึกษาต้องไม่ให้นักเรียน หรือ นักศึกษานั้นออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็น การย้ายสถานศึกษา

 

ร่างกฎกระทรวง (ใหม่)  ข้อ 7 สถานศึกษาตามข้อ 2 ที่มีนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่ง ตั้งครรภ์อยู่ในสถานศึกษาต้องไม่ให้นักเรียน หรือ นักศึกษานั้น ออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็น การย้ายสถานศึกษาตามเจตนารมณ์ของนักเรียนหรือ นักศึกษาที่ตั้งครรภ์

 

 

รายงานจากการสืบค้นของ edunewssiam พบการให้ข้อมูลต่อสถานการณ์การตั้งครรภ์ในไทย ปีพ.ศ. 2556 ของ องค์การอนามัยโลก พบว่าหญิงไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี ตั้งครรภ์สูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีอัตราการวัยรุ่นอายุ 10 -19 ปีที่ตั้งครรภ์อยู่ที่ 74 คน ต่อวัยรุ่น 1,000 คน

 

ขณะที่กรมอนามัย ระบุอัตราส่วนเด็กท้องที่สำรวจล่าสุดในปี พ.ศ. 2559 ว่าลดลงเหลือ 42.5 คน ต่อวัยรุ่น 1,000 คน คิดเป็นร้อยละ 14.2 เทียบกับปี พ.ศ. 2556 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 16.8 จะเห็นได้ว่าในช่วง 3 ปีให้หลังของของการสำรวจ จำนวนเด็กท้องในไทยลดลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับนานาประเทศ

 

แม้ว่า...หน่วยงานต่าง ๆ ในไทย จะมีความพยายามผลักดันนโยบาย เพื่อลดจำนวนการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นโดยก่อร่างเป็นแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์การป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ พ.ศ. 2560 – 2569 ซึ่งทำงานภายใต้การนำของพ.ร.บ.การป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559

 

แต่จากการสำรวจพบว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ กลับแทบไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงในระดับโรงเรียน เห็นได้จากการเชิญแม่วัยรุ่นออกจากสถานศึกษาซึ่งพบได้บ่อยครั้งจนดูราวเป็นเรื่องปกติ

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

 

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage