“ตรีนุช”ประชุมปฏิบัติการย้ำขับเคลื่อนงานพัฒนากําลังคนอาชีวะคุณภาพมีคุณธรรม

วันนี้ (23 ม.ค.2566) ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จ.ปทุมธานี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ประชุมวิชาการปัจจุบันสู่อนาคตการผลิตและพัฒนากําลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูงเพื่อการพัฒนาประเทศ สื่อสาร ส่งเสริม สู่การปฏิบัติซึ่งเป็นการประชุมผู้บริหารระดับภูมิภาคของสถาบันการอาชีวศึกษา วิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทั้งของรัฐและเอกชน ในเขตภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร

 นางสาวตรีนุช กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสําคัญในการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย ในส่วนของอาชีวศึกษา ได้เน้นย้ำการพัฒนาการอาชีวศึกษา พัฒนาคุณภาพวิชาชีพ และแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการจัดระบบและกลไกความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในรูปแบบทวิภาคีที่ชัดเจน ซึ่งเป็นการพัฒนากําลังคนให้มีทักษะขั้นสูงสามารถนําความรู้และทักษะมาใช้แก้ไขปัญหาและต่อยอดเพื่อสร้างนวัตกรรมให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนากําลังคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมแล้ว และกําลังคนที่กําลังจะเข้าสู่อุตสาหกรรม ตลอดจนเตรียมการสําหรับผลิตกําลังคนในสาขาที่ขาดแคลนด้วยการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เร่งรัดขยายระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อให้การอาชีวศึกษาเป็นกลไกสําคัญในการสนับสนุน และส่งเสริมระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง มั่นคง ซึ่งเป็นนโยบายที่ชัดเจน และเป็นแนวทางปฏิบัติที่ต้องยึดถือในการสร้าง คุณภาพทางการศึกษา

 ดิฉันขอชื่นชมในวิสัยทัศน์ ผลิตและพัฒนากําลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง เพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่ง สอศ. ได้กําหนดเป้าหมายเพิ่มจํานวนผู้เรียนในหลักสูตรการเรียนการสอนทวิภาคี ให้ได้ร้อยละ 50 ของผู้เรียนทั้งหมด หรือ จํานวน 511,177 คน ในปี 2568 จึงนับเป็นความท้าทายของผู้บริหารการศึกษาทุกท่าน หากสามารถร่วมมือกันทําได้สําเร็จไม่เพียงจะส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ยังเป็นการเสริมสร้างรากฐานของชุมชน และสังคมได้ อย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้การเดินหน้าสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาในโครงการอาชีวะ อยู่ประจํา เรียนฟรี มีอาชีพ ,การปฏิรูปและยกระดับ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง 48 แห่ง ภายใต้แนวคิด 1 ฟาร์ม 1 วิทยาลัย, การผลิตและพัฒนากําลังคนในสาขายานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะทาง  ภายใต้โครงการ CVM และ Excellent Center ซึ่งเป็นโครงการขับเคลื่อนที่สําคัญในการยกระดับคุณภาพทางการศึกษา นางสาวตรีนุช กล่าว.

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามเป้าหมายทั้งหมดนี้จะสำเร็จได้ สำคัญที่สุด คือ ผู้บริหารสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมระดมความคิดช่วยกันหาว่า มีปัญหาและอุปสรรคอะไรในบริบทและพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันว่าจะทำอย่างไรให้สถานศึกษาที่อยู่ห่างไกล หรือยังต้องการความช่วยเหลือ ให้ได้มีโอกาสพัฒนาและสามารถเข้ามาฝึกงานในสถานที่ปฏิบัติงานจริง ได้ใช้เทคโนโลยีจริง ทั้งนี้ ขอขอบคุณบุคลากร สอศ.ทุกท่านที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ในการผลิตและพัฒนากําลังคนด้านวิชาชีพ ให้มีคุณภาพ คุณธรรม สอดคล้องกับความต้องการพัฒนาประเทศ ได้ขับเคลื่อนการดําเนินงานให้เชื่อมโยงกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล นโยบายจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ สิ่งที่ทุกท่านกําลังดําเนินการอยู่ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เรียน ซึ่งถือเป็นการสร้างทรัพยากรบุคคลให้เป็นผู้มีความรู้ มีทักษะวิชาชีพเพื่อการมีงานทำ และพัฒนาประเทศชาติต่อไป.