อัมพร” แจงกฎเหล็ก” จ้างคนทำงานให้ราชการ ปีงบ ๖๖ เขตพท.ใดไม่ส่งรายงานคืนอัตราว่าง ไปจ้างใหม่ทดแทน ต้องรับผิดชอบเอง
❝ หากตรวจสอบภายหลังพบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่รายงานส่งคืนอัตราว่างตามข้อ ๒.๑ และ ๒.๒ และนำอัตราไปจ้างรายใหม่ทดแทนโดยไม่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก่อน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จะต้องรับผิดชอบงบประมาณการจ้างที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการ และสำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐานจะไม่จัดสรรงบประมาณการจ้างให้กับอัตราดังกล่าว...
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีหนังสือที่ ศธ ๑๔๐๐๙/ว๔๑๓ ลงวันที่ ๒ต มกราคม ๒๕๖๖ เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต แจ้งเรื่อง แนวทางการบริหารจัดการอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
อ้างถึง หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาชั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ. ๑๔๐๐๙/ว ๕๒๗๗ ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕ , หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาชั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ. ๐๔๐๐๙/ว ๕๗๓๔ ลงวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๕ และ หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ. ๐๔๐๐๖/ว ๑๖๖ ลงวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
โดยหนังสือที่อ้างถึง ๓ - ๒ ได้จัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการบริหารจัดการอัตราจ้าง ที่ได้รับจัดสรรตามข้อสั่งการที่กำหนด โดยได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเป็นค่าจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ครั้งที่ ๒ ระยะเวลา ๓ เดือน (มกราคม ถึง มีนาคม ๒๕๖๖) ตามหนังสือที่อ้างถึง ๓ ความแจ้งแล้ว นั้น
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อราชการ จึงยกเลิกแนวทางบริหารจัดการอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตามหนังสือที่อ้างถึง ๑ - ๒ และ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการตามแนวทางบริหารจัดการอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ใหม่ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินการจ้างอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการได้อย่างต่อเนื่อง ตามจำนวนอัตราที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ ตามหนังสือที่อ้างถึง ๓ จนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ กรณีอัตราจ้างว่างลงสามารถสรรหาผู้ปฏิบัติงานให้ราชการรายใหม่ทดแทนได้ โดยไม่ต้องรายงานส่งคืนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาชั้นพื้นฐาน ในตำแหน่งดังต่อไปนี้
๑.๑ ตำแหน่งบุคลากรปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ขาดแคลน
๑.๒ ตำแหน่งบุคลากรปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ตั้งใหม่และขาดแคลน
๑.๓ ตำแหน่งครูดูแลนักเรียนประจำพักนอน
๑.๔ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประจำห้องบฏิบัติการวิทยาศาสตร์ (Lab boy)
๑.๕ ตำแหน่งนักการภารโรง
๑.๖ ตำแหน่งธุรการโรงเรียน อัตราละ ๓๕,๐๐๐ นาท และ อัตราละ ๙,๐๐๐ บาท
๑.๗ ตำแหน่งครูรายเดือนแก้ปัญหาสถานศึกษาขาดแคลนครูขั้นวิกฤติที่จัดสรรให้โรงเรียนคู่พัฒนาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนเพียงหลวงฯ โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ กรณีทดแทนครูช่วยรายการโรงเรียนวังไกลกังวล
๒. ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบริหารจัดการอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการตามจำนวนที่มีคนครอง เมื่ออัตราจ้างว่างลงให้รายงานส่งคืนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามแบบรายงานสิ่งที่ส่งมาด้วย พร้อมส่งไฟล์ ทาง Email : Employee5638@gmail.com ด้วยอีกทางหนึ่ง และ ชะลอการสรรหาอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการรายใหม่มาทดแทน จนกว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะแจ้งอนุมัติจัดสรรอัตราและงบประมาณให้ในคราวต่อไป ในตำแหน่งดังต่อไปนี้
๒.๑ ตำแหน่งครูรายเดือนแก้ไขปัญหาสถานศึกษาขาดแคลนครูขั้นวิกฤติที่ไม่ใช่ตำแหน่งตามข้อ ๑.๗
๒.๒ ตำแหน่งอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการในสถานศึกษาที่เลิก หรือโอนไปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หากตรวจสอบภายหลังพบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่รายงานส่งคืนอัตราว่าง ตามข้อ ๒.๑ และ ๒.๒ และนำอัตราไปจ้างรายใหม่ทดแทนโดยไม่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก่อน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องรับผิดชอบงบประมาณการจ้าง ที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะไม่จัดสรรงบประมาณการจ้างให้กับอัตราดังกล่าว
๓. กรณีอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการที่มีคนครองของสถานศึกษาที่อยู่ในแผนการรวม เลิก หรือ โอนสถานศึกษาไปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาบริหารจัดการเกลี่ยอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการไปให้สถานศึกษาอื่นได้ตามความจำเป็น ขาดแคลน เหมาะสม
๔. กรณีอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งธุรการโรงเรียน ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาบริหารจัดการตามจำนวนอัตราที่ได้รับจัดสรร โดยอาจมอบหมายให้ปฏิบัติงานในสถานศึกษาได้มากกว่า ๑ แห่ง โดยพิจารณาจากภาระงาน หน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่ง ปริมาณงานของสถานศึกษาและความจำเป็นเหมาะสม ตามบริบทของเขตพื้นที่การศึกษา
ทั้งนี้ สำหรับการจ้างอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการดังกล่าว ถือเป็นการจ้างโดยไม่มีข้อผูกพันที่จะนำไปสู่การบรรจุ หรือ ปรับเปลี่ยนสถานภาพเป็นลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ หรือข้าราชการ
หากผู้ใดประสงค์จะบรรจุเป็นพนักงานราชการหรือข้าราชการ ต้องดำเนินการตามเงื่อนไข ที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการหรือองค์กรกลางกำหนด ตามลำดับ
ทั้งนี้ การจ้างอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ จะดำเนินการจ้างได้ ต่อเมื่อได้รับแจ้งเรื่องงบประมาณแล้ว.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam
ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage