คุณหญิงกัลยา' ขับเคลื่อนวิทยาลัยเกษตรเทคโนโลยีและ ประมง MOU รัฐ-เอกชน-ประชาสังคม จบมาต้องมีงานทำ
 
คุณหญิงกัลยา' ขับเคลื่อนวิทยาลัยเกษตรเทคโนโลยีและ
ประมง MOU รัฐ-เอกชน-ประชาสังคม จบมามีงานทำ
 
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) การพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำ ระหว่าง มูลนิธินโยบายสาธารณะไทย กับ เทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง และหน่วยงานส่วนท้องถิ่น 6 แห่ง
 
งานนี้ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายโชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย โดยมีผู้บริหารเทศบาลเมืองมาบตาพุด ส่วนท้องถิ่น และ ผู้บริหารจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับและนำลงพื้นที่ชมตัวอย่างธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่การเกษตรของชุมชน จ.ระยอง 
 
ดร.คุณหญิงกัลยา เปิดเผยถึงการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ถือเป็นหนึ่งในภารกิจและแผนการขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเป็นการสนองพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรเพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้และแก้ปัญหาความยากจน นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะสร้างคุณประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับประเทศชาติ
 
ความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบูรณาการความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ นำศาสตร์พระราชามาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม แก้ปัญหาความยากจน และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการสร้างศักยภาพ การผลิตชลกร การฝึกงานในหน่วยงานและถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ท้องถิ่นและสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโดยชุมชนอย่างยั่งยืน
 
นับเป็นการขยายการมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชน ในการที่จะร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมพัฒนา องค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำ ผ่านการวางรากฐานโดยสถานศึกษาเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่เป็นสากล และนำหลักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ รวมถึงสามารถตอบโจทย์เรื่อง World Education ที่ทำให้เด็กมีรายได้ระหว่างเรียน จบมาแล้วมีงานทำ มีศักยภาพและแข่งขันได้ 
 
ปัจจุบันโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ได้ขับเคลื่อนมาจนก้าวสู่ปีที่ 4 สามารถขยายองค์ความรู้ทั้งทางทฤษฎี และปฏิบัติ ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำในระดับสากล สู่วิทยาลัยเกษตรเทคโนโลยีและประมง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ให้สามารถพึ่งการจัดการน้ำโดยชุมชนเองได้
 
และภายใต้บันทึกความเข้าใจการพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำที่ได้เริ่มต้นในวันนี้ คาดว่าจะทำให้นักศึกษาหลักสูตรชลกรที่สำเร็จการศึกษารุ่นแรกทั้งหมด จะมีงานทำและพึ่งพาตนเองได้แม้ในยามที่ประเทศมีวิกฤต
 
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ที่คุณหญิงกัลยาได้ขับเคลื่อนถือว่าเป็นโครงการสำคัญ และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับคนในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเฉพาะเทศบาลเมืองมาบตาพุด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นนำร่องในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำในพื้นที่ชุมชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประชาชนในวงกว้าง
 
และที่สำคัญโครงการฯ นี้ทำให้ก่อเกิดหลักสูตร "ชลกร" จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวในการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพออกมาพัฒนาประเทศต่อไป
 
ขณะเดียวกัน นายโชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการฯ เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะส่งเสริม ประสาน และบูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารทรัพยากรน้ำที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในระดับท้องถิ่น
 
โดยโครงการฯ จะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ต่อไป ซึ่งจะมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนของแต่ละพื้นที่
 
และมูลนิธิฯ จะสนับสนุนให้การขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ประสบผลสำเร็จ ให้ประชาชนได้รู้ถึงคุณค่าของน้ำ ส่งต่อความรู้ไปยังผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ให้สามารถดูแลบริหารจัดการน้ำชุมชนด้วยตนเอง โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ แก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage