อรรถพล'พ่อบ้านวังจันทรฯ ปลื้ม ครูเกษียณ แห่สมัคร อส.ศธ. 34,267 คน รับแค่ 3,850 หวั่นเกณฑ์คัดเลือกสุ่มเสี่ยงครหา

 

 

อรรถพล'พ่อบ้านวังจันทรฯ ปลื้ม'ครูเกษียณ

แห่สมัคร อส.ศธ. 34,267 คน รับแค่ 3,850

หวั่นเกณฑ์คัดเลือกสุ่มเสี่ยงครหา

 

จากการที่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)  ประกาศรับครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกษียณอายุราชการ เข้ามาเป็นครูอาสาสมัครจิตอาสา กระทรวงศึกษาธิการ  (อส.ศธ.) เพื่อเข้ามาช่วยงานการศึกษากระจายทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมช่วยงานด้านการศึกษา พัฒนาทักษะวิชาชีพตามบริบทในพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อเตรียมคนในอนาคตรวมทั้งกลุ่มผู้สูงวัย ตั้งแต่ วันที่ 16 มกราคม - วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น มีจำนวนผู้สนใจสมัครล้นหลามเกินกว่า 3 หมื่นคนต้องคัดออก หวั่นเกณฑ์เลือกปฏิบัติ 

 

โครงการอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) เป็นไอเดียที่ดี ของ นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ. ) มองเห็นว่า สถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ คาดว่าในอีก 11 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุของไทยจะสูงขึ้นเป็น 28% ถือเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด ซึ่งในระยะยาวจะกระทบต่อรัฐในการจัดสรรงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณด้านสุขภาพ

 

ขณะที่กลุ่มผู้ว่างงานและอยู่นอกระบบการศึกษา (Non Education Employer Development : NEED) มีมากถึง 1.3 ล้านคน หากปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามภาวะปกติ เชื่อว่าในทศวรรษหน้าประเทศไทยจะเผชิญปัญหาหนักและมีแนวโน้มจะกลายเป็นวิกฤตหนักของประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ

 

ส่วนด้านผลิต ภาพแรงงานของไทยอยู่ในอันดับที่ 40 จาก 64 ประเทศ มีแรงงานนอกระบบมากถึง 52% ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้ไม่มีสวัสดิการ ช่องว่างดังกล่าวสามารถเข้าไปพัฒนาได้ คือ การเตรียมพัฒนากำลังคนให้ทำงานได้เต็มตามศักยภาพ ซึ่งต้องใช้เวลาและเตรียมการตั้งแต่วัยเด็ก

รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมพัฒนากำลังคนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤตนี้

ซึ่ง กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนระยะสั้น ในช่วง 3-6 เดือน ข้างหน้าของ ปี 2566 ภายใต้แนวคิด “สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณค่า” เพื่อสร้างความสุขให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ/ทักษะชีวิตเพื่อสอนวิชาชีพ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา

โดยเปิดรับสมัครอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) ผ่านระบบออนไลน์ วางเป้าหมายมีผู้สมัครกว่า 30,000 คน จะกระจายลงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นบุคลากรสำคัญในการดำเนินการร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยพัฒนากำลังคนทุกกลุ่มวัยในระดับพื้นที่ 

 

เท่ากับเตรียมคนในอนาคตและกลุ่มผู้สูงวัยด้วย

 

สำหรับผู้สูงอายุที่มีจิตอาสาและสนใจสมัครเป็นอาสาสมัคร อส.ศธ. กำหนดชัดต้องเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกษียณอายุราชการ พร้อมช่วยงานด้านการศึกษา พัฒนาทักษะวิชาชีพตามบริบทในพื้นที่แต่ละจังหวัด

ระบุในการลงทำหน้าที่ ส่งเสริมเพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนทุกระดับ ระหว่างสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่างมีคุณภาพและมีความสุขทั้งในด้านทักษะต่าง ๆ อารมณ์ สังคม คุณธรรม จริยธรรม

ดูแลปกป้องคุ้มครองนักเรียนให้มีความปลอดภัยด้านร่างกายและจิตใจ มีพฤติกรรมที่เหมาะสม และมีโอกาสด้านการศึกษาอย่างเท่าเทียมด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย

รวมถึงยกระดับห้องสมุดประชาชนเฉลิมพระเกียรติ ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี หอสมุดรัชมังคลาภิเษก ห้องสมุดประชาชนจังหวัด อำเภอ กศน.ตำบล และศูนย์การเรียนชุมชน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิชาชีพ/ทักษะชีวิต และเป็นสถานที่ส่งเสริมการรู้หนังสือให้ผู้สูงวัย

เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.) หรือเป็นผู้ฝึกอบรมอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่น อาทิ กศน., อพม.,  อสม.,  อปพร., กอ.รมน. เป็นต้น ในอัตรา 77 จังหวัด ๆ ละ 50 คน รวม 3,850 คน ภายใต้โครงการอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.)

ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 คณะรัฐมนตรี รับทราบในหลักการดำเนินโครงการอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้นำเสนอ 

จากข้อมูล volunteers.moe.go.th ของ ศธ. เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 แจ้งว่า มีจำนวนผู้ที่สมัครเป็น อส.ศธ.ทั้งประเทศ รวมทั้งสิ้น 34,267 คน แต่ต้องการเพียง 3,850 คน ซึ่งอาจะมีคำถามตามมาว่า ศธ.จะมีเกณฑ์พิจารณาคัดกรองคนเข้าร่วมโครงการอส.ศธ.ที่ไม่สุ่มเสี่ยงต่อข้อครหาต่าง ๆ ที่คาดไม่ถึง ตามมาภายหลัง

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam  

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage