อรรถพล ปลัดศธ. เดินหน้าแก้หนี้ครูต่อ ผู้ค้ำมีเฮ! รับผิดชอบส่วนเดียว ลุ้นไม่เหมาจ่าย

 

อรรถพล ปลัดศธ. เดินหน้าแก้หนี้ครูต่อ

ผู้ค้ำมีเฮรับผิดชอบส่วนเดียว ลุ้นไม่เหมาจ่าย 

 

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย “Unlocka better life” สร้างโอกาสใหม่เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า 4 ภูมิภาค ครั้งที่ 3 ภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ นายสุทิน แก้วพนา รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก

 

 

 

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นความสำคัญเรื่องหนี้สินของประชาชน มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดการแก้ไข

 

ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถือว่าเป็นหน่วยงานที่มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นจํานวนส่วนใหญ่ล้วนมีปัญหาเรื่องหนี้สินเกือบทั้งสิ้น ที่ผ่านมาศธ.เร่งดําเนินการแก้ปัญหาหนี้สินฯ ใน 2 มิติ ด้วยกัน

 

กลุ่มแรก ครูที่ทําหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการเรียนการสอน ได้มีขวัญและกําลังใจมุ่งมั่นในด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพเรียนการสอน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สิน อันจะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาและคุณภาพสังคมดีขึ้น

 

กลุ่มที่สอง คือข้าราชการที่เกษียณแล้ว ที่รับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ไม่มีรายได้พิเศษหรือวิทยฐานะต่าง ๆ แต่ยังมีหนี้จากสถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ด้วยปัญหาดังกล่าว

 

จึงนํามาสู่โครงการมหกรรมแก้ไขปัญหาหนี้สินครูเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค ด้วยการหารือกับสถาบันการเงิน และสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จัดทํากิจกรรมลงนามความร่วมมือพร้อมกําหนดรูปแบบแนวทางในการแก้ไขหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเป็นฐานในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจัดไปแล้ว 2 ครั้ง

 

ริ่มที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 18 – 19 กุมภาพันธ์ 2566 มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมงาน จำนวน 2,180 คน ได้รับการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 626 คน แก้ไขหนี้ได้กว่า 784 ล้านบาท 

 

ต่อด้วยครั้งที่ 2 ภาคตะวันออก ที่จังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่  11 – 12 มีนาคม 2566 มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมงาน จำนวน 1,986 คน ได้รับการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 143 คน แก้ไขหนี้ได้กว่า 175 ล้านบาท

 

และครั้งนี้ล่าสุด ครั้งที่ 3 เป็นการจัดงานภาคเหนือ ที่จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่  18 – 19 มีนาคม 2566 มีเป้าหมายหลัก เปิดโอกาสให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ประสบปัญหาหนี้สินได้เข้า มาไกล่เกลี่ย เจรจา ปรึกษา ปรับโครงสร้างหนี้ หาข้อยุติการบังคับคดีและแก้ไขปัญหาหนี้สินร่วมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  

 

มีการเจรจาและสร้างความร่วมมือกับทางสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารธกส. สถาบันการเงินทุกแห่ง รวมถึงสถาบันเครดิตบูโร และกบข. ถึงแนวทางในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาหนี้สินครู รวมทั้งหนี้จากทุกสถาบันการเงินมาไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ที่มีการควบคุมยอดหนี้ไม่ให้เกินความสามารถในการชําระหนี้

 

ในกิจกรรมพูดคุยตั้งเป้าหมายว่าอย่างน้อย จะต้องมีเงินเดือนสุทธิหรือเงินออมหลังจากหักชําระหนี้แล้ว ไม่น้อยกว่าอัตราร้อยละ 30 ตลอดจนเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับสถาบันการเงินหรือเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรเพื่อหาแนวทางในการปรับสภาพหนี้ และปรับโครงสร้างนี้หนี้เดิมที่มีอยู่กับ กยศ.ก่อนที่จะมาเป็นครู

 

จึงเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือ ตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดําเนินการ สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินครูได้กว่า 1 แสนคน จำนวนเงิน กว่า 1 แสนล้านบาท

 

 

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  กล่าวถึงภาพรวมการดําเนินการศึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพิษณุโลก มีครูที่มาปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 1 พันคน ดําเนินการสําเร็จไปแล้วกว่า 600 กว่าคน    ที่เหลือ กําลังอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งทางศธ.ก็ขอให้ความมั่นใจว่า จะดําเนินกิจกรรมเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่เข้าร่วมงานจะได้รับ โปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ จากธนาคารและสถาบันการเงินอีกด้วย เท่ากับเพิ่มสร้างแรงจูงใจให้กับครูได้มาเข้าร่วมในโครงการแก้ปัญหา หนี้สินครูในครั้งนี้

 

ส่วนผู้ที่ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมตามกําหนดวันและเวลาได้ ธนาคารบางแห่งก็ยังเปิดโอกาสให้ครูเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้ได้ หรือบางธนาคารจัดโปรโมชันลดดอกเบี้ยให้แก่ครูที่เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้เช่นกัน

 

“ขอเน้นย้ำและฝากอีกประเด็นหนึ่งที่สําคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ กลุ่มของผู้ค้ำประกันที่ต้องรับความเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมามีหนี้เสีย (NPL) ที่ได้กลายเป็นภาระหนี้ สร้างความเดือดร้อนตกมาถึงผู้ค้ำ ทั้งแบบค้ำประกันเป็นกลุ่มหรือแบบตัวต่อตัว ซึ่งมีมากกว่า 1 หมื่นราย โครงการนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ค้ำในการรับผิดชอบในหนี้สินเพียงแค่ส่วนเดียวจากที่เคยต้องรับทั้งหมด ขอให้กําลังใจแก่ครูที่เข้าร่วมโครงการ และหวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์แก่ครูทุกคนด้วยเช่นกัน”  ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

 

 

 

ด้านนายสุทิน แก้วพนา รองปลัด ศธ. กล่าวเพิ่มเติมถึงกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การไกล่เกลี่ยกรณีถูกฟ้องร้องดำเนินคดี / การปรับโครงสร้างหนี้ / การวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงิน / การอบรมให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้สิน / นิทรรศการการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูของกระทรวงศึกษาธิการ และที่สำคัญจะได้การผ่อนปรนและสิทธิพิเศษจากสถาบันการเงินอีกด้วย

 

สำหรับภาพรวมกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อมุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาหนี้สินครู และสร้างความรู้ทางการเงินให้แก่ครู สร้างวินัยทางการเงิน และสามารถวางแผนจัดการเรื่องการเงินในอนาคตที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบและยั่งยืนได้ 

 

Photo : ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา และ ศธ. 360 องศา 

 

( โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว )

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam 

ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage