พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ  หนูเทพ องคมนตรี  ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

         วันนี้ 26 เมษายน 2566 เวลา 09.35  น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ  หนูเทพ องคมนตรี  ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  ในพระบรมราชูปถัมภ์  เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 844 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์         

         โดยมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด  และนายอำเภอที่ประสบวาตภัย ได้แก่ นายอำเภอศรีเทพ  นายอำเภอหนองไผ่  นายอำเภอบึงสามพัน  นายอำเภอวิเชียรบุรี  นายอำเภอชนแดน  นายอำเภอหล่มสัก  นายอำเภอเขาค้อ  นายอำเภอเมือง และนายอำเภอหล่มเก่า  ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบวาตภัย  และมอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอศรีเทพ  จังหวัดเพชรบูรณ์  เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและขวัญกำลังใจ

          ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบวาตภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ  กับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่อำเภอศรีเทพ จำนวน 5 ครอบครัว ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา

ในการนี้ องคมนตรี  ได้ร่วมประชุมรับฟังการเกิดเหตุวาตภัย การแก้ไข รวมทั้งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ฯ  หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด  และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยงข้อง เข้าร่วมประชุม

        จังหวัดเพชรบูรณ์  ได้เกิดเหตุวาตภัยและพายุฤดูร้อน  ใน 3 ห่วงเวลาที่ผ่านมา คือเมื่อวันที่ 28 มีนาคม – 3 เมษายน 2566 ห้วงที่ 2 เมื่อวันที่ 8 – 10 เมษายน 2566 และห้วงที่ 3 เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566  โดยมีฝนตก ลมกระโชกแรงในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลทำให้บ้านเรือนราษฎร เสียหายทั้งหลังและเสียหายบางส่วน พื้นที่ทางการเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์  ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ 9 อำเภอ 42 ตำบล 184 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบกว่า 844 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว เหลือในบางพื้นที่ โดยจังหวัดได้เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆเป็นการเร่งด่วนด้วยแล้ว