เรื่อง "แปลก" ในวงการศึกษา

 ภาพประกอบ

 

เรื่อง "แปลก" ในวงการศึกษา

 

จันโททัย : เขียน

 

1 คงหนีไม่พ้นเรื่องที่มีคนกล่าวขวัญกันมา 20 กว่าปีแล้วว่า ทำไมหนอถึงเอาคนที่ไม่รู้จริงเรื่องการศึกษามาเป็นรัฐมนตรีศึกษา

 

ขนาดเมื่อ 50 ปีก่อน เรามีรัฐมนตรีศึกษามาจากมือหนึ่งของผู้บริหาร คือ ท่านภิญโญ สาธร และต่อมาเมื่อ 20 ปีก่อนก็ได้ ท่านวิจิตร ศรีสอ้าน เป็นรัฐมนตรีศึกษา ยังเอาตัวแทบไม่รอด ต่อมาก็เอาคนในวงการศึกษาแท้จริง คือ ท่านชินวรณ์ บุณยเกียรติ และ ท่านอาคม เฉ่งฉ้วน มาเป็นรัฐมนตรีศึกษา ก็ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ แล้วเอาคนนอกวงการศึกษามาเป็นรัฐมนตรี

 

มันจะไปรอดหรือครับ หรือไปแบบถู ๆ ไถ ๆ

 

2 แปลกที่การบรรจุแต่งตั้งครูบรรจุใหม่ทำได้ช้าชืดทุกปี ทั้งที่รู้ว่า ห้วงเวลาไหนจะต้องทำอะไร ก็บรรจุแต่งตั้งกันไม่ทันกินเสียที ปล่อยให้โรงเรียนมีตำแหน่งว่าง คือ ว่างทั้งผู้บริหารโรงเรียน ว่างทั้งครูผู้สอน ว่างทั้งนักการภารโรง เป็นอยู่อย่างนี้ทุกปี จะไม่ให้แปลกอย่างไรล่ะครับ

 

3 สอบบรรจุครูแต่ละปี มีผู้สมัครเป็นแสน แต่สอบได้แค่หมื่นเดียว มันจะไปพอยาไส้ได้อย่างไรล่ะครับพระเดชพระคุณ เพราะข้อสอบออกยากเหลือเกินจนผู้สอบได้มีน้อยก็ไม่สามารถจะบรรจุทดแทนได้ในโรงเรียนทั่วประเทศ โรงเรียนจึงขาดครูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มันแปลกที่ว่าก็รู้ดีอยู่แล้วแต่ไม่อยากแก้ไขแฮะ

 

4 เมื่อ 30-40 ปีก่อน การสอบบรรจุครูให้แต่ละจังหวัดดำเนินการสอบเอง ก็เห็นเขาทำกันมาได้ดีไม่มีข่าวทุจริตจิตมิชอบ ก็อาจมีบ้างประปรายเป็นบางจังหวัด แปลกที่สมัยนี้ เอาคนที่ไม่รู้ธรรมชาติของโรงเรียนประถมและมัธยมต่างจังหวัด มานั่งออกข้อสอบ คือ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ไม่ค่อยได้สัมผัสโรงเรียนในต่างจังหวัด และ ในชนบทจึงต้องเปิดหนังสือเปิดตำราออกข้อสอบออกกันจนสอบไม่ผ่านรูดมหาราด เพิ่งจะมานึกได้ว่า ควรให้แต่ละจังหวัดออกข้อสอบเอง เข้าตำรา "กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้"

 

5 สิบกว่าปีที่ผ่านมา โรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กนักเรียนไม่ถึง 100 คน มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี และโรงเรียนที่มีเด็ก 20-30 คนก็มีมากขึ้นทุกปี มันแปลกประหลาดที่ว่า เบื้องบนก็รู้ว่าเด็กจากต่างหมู่บ้านต่างตำบลต่างอำเภอ หรือ ต่างจังหวัด ต่างมุ่งเข้าไปเรียนโรงเรียนที่มีคุณภาพเยี่ยมในตัวจังหวัดกันหมด ปล่อยให้โรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านแทบจะตายซาก โรงเรียนขนาดเล็กถูกยุบไปก็เยอะ ที่คาราคาซังดีบ้างไม่ดีบ้างก็แยะ แปลกที่ว่าหน่วยเหนือก็รู้ แต่ไม่ยักแก้ไข

 

6 ด่านทดสอบเด็กมีมากเหลือเกิน คือ การทดสอบเด็กใช้ข้อสอบวัดความรู้เด็กทั้งกึ่งกลางภาค ปลายภาค สอบ NT สอบ o-net จนเด็กเข็ดเขี้ยวขี้เยี่ยวไม่ออกไปตาม ๆ กัน แถมโรงเรียนยังต้องเตรียมการรับการประเมินต่าง ๆ จนแทบไม่มีเวลาสอนเด็ก มีคนพูดแล้วพูดอีกจนปากจะฉีกถึงตูด แต่แปลกที่ไม่มีใครรับฟัง

 

7 การลงโทษเด็กหรือการทำโทษเด็ก ด้วยวิธีที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์พันธุ์ลึก ก็ยังมีเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ มันแปลกที่ว่า ครูไปคิดวิธีการลงโทษเด็กที่พิจิตรพิสดารอย่างนี้ได้อย่างไร จนเป็นข่าวปรากฏในสื่อมวลชนอยู่บ่อย ๆ

 

8 แปลกที่มีข่าวสะเทือนใจเพื่อนครูออกมาอยู่เรื่อย ๆ เช่น ข่าวการลงโทษผู้บริหารและครูในกรณีสนามฟุตซอลในหลายจังหวัดภาคอีสาน หรือการสร้างอควาเรียมหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สงขลา แปลกที่สุดคือใช้เวลาสอบสวนเกือบ 20 ปีแล้ว ก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ เปลี่ยนเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษาแห่งชาติมาเกือบ 10 คนแล้ว แต่สิ่งก่อสร้างนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ

 

9 แปลกประหลาดที่สุดที่หน่วยงานในความดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ คือ สำนักงานสกสค.และองค์การค้าของสกสค. ที่ผ่านมาหลายปีเต็มที ก็ยังไม่มีผู้บริหารที่มีตัวตนอย่างแท้จริงยังคงใช้รักษาการอยู่ชั่วนาตาปี จนสมองด้วยงานดังกล่าวแทบจะป่นปี้หมดแล้วกระมังครับ

 

10  มีครูบ่นแล้วบ่นอีก พูดแล้วพูดอีก ลาออกแล้วลาออกอีก ว่าเรียมเหลือทนแล้วนั่น อยู่โรงเรียนนึกว่าจะได้สอนเด็ก กลับต้องมานั่งทำเอกสารส่งเบื้องบนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนเจ็บระบมริดสีดวงไปหมดแล้วก็ยังต้องทำ ขนาดครูโรงเรียนมัธยมยังปวดร้าวเรื่องการทำเอกสาร แล้วครูประถมศึกษาจะเหลือหรือ

 

สุดแปลกที่ว่าเสียงบ่นนี้ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษากลับไม่ได้ยิน

 

วันนี้เอาแค่ 10 ข้อนี้คงจะพอก่อนนะครับเพราะเหลือรับประทานแล้วครับท่าน

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage