ปัญหาหนี้สินครู มันมีประเด็น ที่ทำให้ครูตกหลุมพราง

ปัญหาหนี้สินครู มันมีประเด็น

ที่ทำให้ครูตกหลุมพราง  

 

ตุลย์ ณ ราชดำเนิน : tulacom@gmail.com

 

เห็น รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. บอกว่า สำนักงาน ก.ค.ศ. เตรียมนำหลักสูตรเสริมสร้างการมีวินัยทางการเงิน การออม และรณรงค์ การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับครูและผู้สนใจเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) เป็นไปตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

 

ทำไมถึงตัองอ้างอิงว่า เป็นไปตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าไม่บอกกล่าว ไม่ขลัง ไม่มีใครเข้ามาร่วม ก็อาจจะเป็นไปได้

 

ประเด็นอยู่ที่จะมีการพัฒนาครูผู้ช่วยในแต่ละปีที่ผ่านมา ซึ่งผ่านการอบรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ แบบ Onsite ประมาณปีละ 300 คน ถามว่า จะคุ้นกับการลงทุนลงแรง ไหมเนี่ย

 

เนื่องจาก ปัญหาหนี้, รายได้ไม่พอใช้ และภาระค่าใช้จ่าย ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังสำหรับครูไทยและเป็นเรื่องที่รอนานไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่มีสวัสดิการพิเศษรองรับ

 

แต่อาจด้วยความไม่รู้ หรือรู้แต่ยังจัดการไม่เป็นด้วยเชื่อกันมาตลอดว่า ปัญหาข้างต้นจะค่อย ๆ บรรเทา และหมดไป…ถ้าคุณครูมีความรู้ และทักษะการเงินที่ดี

 

จึงนำมาสู่การเปิดคอร์สเรียนออนไลน์ มากมายทั้งโปรแกรมยกระดับความรู้ และ ทักษะการเงินถูกพัฒนาขึ้นเพื่อคุณครู โดยเฉพาะกิจกรรมเวิร์คชอป ทั้งภาครัฐและเอกชน แม้แต่สถาบันอุดมศึกษา หลายแห่งต่างทำตัวเป็นกูรู ตามด้วยมีประกาศนียบัตรหลังจบแคมป์ สามารถนับชั่วโมงกิจกรรมได้ ก็มี

 

ถึงกระนั้นมาถึงบัดนี้ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการหมดเงินค่าจ้างตีปื๊บ แก้ปัญหาหนี้สินครู ไปแล้วมิใช่น้อยเช่นกัน   

 

มีผู้ส่งความเห็น เรื่องปัญหาหนี้สินครู มาให้ โดยระบุว่า มันมีประเด็น มีที่มาที่เป็นนัยยะ เป็นเหตุแห่งปัญหา...ไม่ใช่คิดเพียงแค่ การประหยัด กับการฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย มันเกิดกับนิสัยคนที่ติดมาจากครอบครัวเป็นส่วนใหญ่

 

แต่เรื่องปัญหาหนี้สินครู มันเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับ การทุจริต การหมกเม็ด ของ สกสค. กับผู้บริหารออมสิน ที่ผ่านมา  ล้วนต้นเหตุสำคัญส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ครูตกหลุมพราง  เปรียบเสมือนปลาตกหลุมโจร ฉันใดฉันนั้น...

 

เหตุที่เกิดตรงนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่เห็นชัดก็ควรสะสาง ตรงนี้ให้ถอนรากถอนโคน ให้หมดสายพันธุ์โกงเช่นกัน

 

ดังนั้น การที่จะแก้ปัญหาเหตุแห่งปัญหาที่มาของการสร้างหนี้ของครูอย่างได้ผล ต้องมองให้ครบประเด็นปัญหาบนทุกมิติ

 

...อย่าได้แต่พูดเหมือนประนามครู....

ต้องประนาม สกสค. กับออมสินด้วย ที่มีส่วนร่วม โดยเล็งเห็นผล ถึงผลประโยชน์มหาศาลที่กลุ่มตนจะได้รับ....เป็นการไร้คุณธรรม สิ้นดี..

...เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมา มีการพูดออกมาหลายปาก ฟังแล้ว แปลว่าครูไม่ดี

 

ความจริงครูดีครับ มีคุณธรรมสูง  มีความรับผิดชอบ และเป็นหมูชั้นดีให้ แบ๊งค์เชือด....คิดให้ลึกแล้วจะเห็นว่า ครูถูกเอาเปรียบ จาก ออมสิน จนใช้หนี้ไม่ไหว...

 

เนิ่นนานมาถึงวันนี้ยังเห็น สกสค. เดินหลงทางอยู่

 

ถ้าสกสค. มองย้อนดูเงาตัวเอง จะเห็นชัดว่าวันเวลาที่ผ่านไป สร้างประโยชน์อะไรให้ครูแล้วบ้าง...

 

สกสค. คือ องค์กรที่เป็นที่พึ่งของครู เงินที่ครูกู้จากออมสิน เป็นข้อตกลงพิเศษเปรียบเสมือนเป็นการกู้แบบสวัสดิการ ตัวครูมีมูลค่าเป็นทรัพย์ เจ้าหนี้หักเงินชำระหนี้ได้จาก สำนักงานเขตพื้นที่ฯ ครูเป็นหมู่ในอวย...

 

ลูกหนี้แบ๊งค์ชั้นดีเลิศ  ให้ดูจุดเด่นที่การคิดดอกเบี้ย ของธนาคาร 4% เป็นอย่างสูง ที่เอกชน ลูกค้าชั้นดี (ไม่ดีเลิศเท่าครู) เขาเสียดอกเบี้ยกัน...แต่ ครูเสีย 5.75%

 

ปัจจุบันครูที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ เสียสูงสุดที่ 7.05% ครูตกเป็นทาสธนาคาร อย่างไม่รู้ตัว...

 

จากการที่ได้พบกับครูที่ถูกฟ้อง พบว่าธนาคารออมสินแจ้งยอดหนี้คงค้าง พร้อมดอกเบี้ย เมื่อหักลบกับเงินที่ส่งธนาคารออมสินไปแล้ว พบว่า ส่ง ธนาคารไปแล้วประมาณ 2,350,000. บาทเป็นเงินต้น ที่ส่งใช้หนี้แล้วประมาณ1,230,000. บาท เป็นดอกเบี้ยที่เสียไป1,120,000. บาท  เงินที่ครูส่งไปเป็นดอกเบี้ยเกือบเท่ากับเงินต้น

 

นี้คือ สาเหตุหนึ่งที่มีการกล่าวกันว่า ธนาคารออมสิน คิดดอกเบี้ยกับครูไม่เป็นธรรม

 

วิธีการแก้ปัญหาหนี้ที่รัฐบาลทำมา

1.แก้กับภาคธุรกิจเอกชน ...ซึ่งการตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ ในทางปฏิบัติ ยอดหนี้จะถูกต้ดให้ต่ำลงได้

2.แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร...มีการออก พรบ.จัดตั้งกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร...กองทุนจะซื้อหนี้ของเกษตรกร จากธนาคารได้ในราคาที่ลดลงเกือบครึ่ง

         ...อย่างไรก็ตาม ธนาคาร มีกำไร จากดอกเบี้ยแน่ เพียงแต่กำไรลดลงเท่านั้น

 

ทั้ง 2 กรณี รัฐบาล เป็นผู้อนุมัติให้ดำเนินการ หากทำได้ ความเดือดร้อนของครูในเรื่องหนี้สิน มันเกี่ยวข้องกับประเทศชาติหลายด้าน ซึมลึก...

 

ถ้า สกสค.  และกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหา ที่ถูกวิธี และอย่างจริงจังจะสามารถช่วยครูได้สำเร็จ

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage