ส่อง ราชภัฏเชียงใหม่ - ราชมงคลตะวันออก

 

ราชภัฏเชียงใหม่ จัดประชุมวิชาการ

เครือข่ายอาเซียนสมาร์ทกริด ครั้งที่ 6

 

วิทยาลัยพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จัดโครงการประชุมวิชาการเครือข่ายอาเซียนสมาร์ทกริด ครั้งที่ 6 (The 6th ASEAN Smart Grid Congress)

รศ.ดร.ชาตรี มณีโกศล รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการประชุมวิชาการเครือข่ายอาเซียนสมาร์ทกริด ครั้งที่ 6 การสร้างความร่วมมือสู่การพัฒนาสมาร์ทไมโครกริดในอาเซียน : โอกาส และความท้าทาย The 6th ASEAN Smart Grid Congress. Forging Cooperation toward Smart Microgrid Development in ASEAN: Opportunities and Challenges

พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นักวิชาการจาก 11 ประเทศ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จำนวน 9 หน่วยงาน ร่วมพิธีเปิดโครงการ ณ ห้องประชุมลีลาวดี ชั้น 5 โรงแรมฟูราม่า เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

 

 

การจัดโครงการประชุมวิชาการเครือข่ายอาเซียนสมาร์ทกริด ครั้งที่ 6 การสร้างความร่วมมือสู่การพัฒนาสมาร์ทไมโครกริดในอาเซียน: โอกาส และความท้าทาย The 6th ASEAN Smart Grid Congress. Forging Cooperation toward Smart Microgrid Development in ASEAN: Opportunities and Challenges

จัดขึ้นโดยวิทยาลัยพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (adiCET) เพื่อเป็นเวทีให้นักวิชาการ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการและอุตสาหกรรม นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันต่อการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีโครงข่ายไฟฟ้าไมโครสมาร์ทกริดในประเทศและระดับอาเซียน

ตลอดจนเพื่อพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือเสริมสร้างความเข็มแข็งทางด้านวิชาการ งานวิจัย และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสมาร์ทกริด พลังงานทดแทนสำหรับโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 - 29 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมฟูราม่า เชียงใหม่ และวิทยาลัยพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม

ข่าว/ภาพ : วัชระ ไทยบัณฑิตย์ นักประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

 

 

เปิดแล้ว!! งานเกษตรบางพระแฟร์

ชม ชิม ช้อป จุใจ กว่า 300 ร้านค้า

 

วันที่ 6 ธ.ค.66 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  ศาสตราจารย์ ดร.สุนทร  บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ แทนสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เป็นประธานเปิด งานเกษตรบางพระแฟร์ ครั้งที่ 27 ประจำปี2566 ในชื่องาน “Innovation Technology for Sustainable Well Being  เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อสุขภาวะความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน” โดยมีนายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และประชาชนทั่วไป  ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

 

รองศาสตราจารย์ ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก  กล่าวรายงานถึงความเป็นมาของการจัดงาน เกษตรบางพระแฟร์ จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรแก่ประชาชนทั่วไป ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาธุรกิจและการตลาดสินค้าเกษตร ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวมทั้งเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความรู้ วิทยาการที่ทันสมัย สอดคล้องต่อการพัฒนาให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางของความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร ในภาคตะวันออก

 

 

งานเกษตรบางพระแฟร์ เป็นงานแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรที่ยิ่งใหญ่อีกงานนึงของภาคตะวันออก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 27 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 4-11 ธันวาคม 2566  ภายใต้ ธีมของงาน “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของงานเกษตรบางพระแฟร์” ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมต่างๆ มาร่วมแสดงในงาน ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนในจังหวัดชลบุรี รวมถึงประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงที่เข้ามาชมงาน               

สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานเกษตรแฟร์ 2566  อาทิเช่น นิทรรศการด้านการเกษตร  มีการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ทันสมัยจากภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมถึงการจัดแสดงผลผลิตทางการเกษตรจากทั่วประเทศ  มีการประกวดพืชผลทางการเกษตร สัตว์เลี้ยง และผลผลิตทางการเกษตรแปรรูป การแสดงพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ การแสดงการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การสาธิตการทำเกษตรสมัยใหม่ เป็นต้น 

 

อีกทั้งยังมีการจำหน่ายสินค้าเกษตร และสินค้าOTOP สินค้าชุมชน และการออกร้านของนักศึกษา รวมกว่า 300 ร้านค้า

 

 

 

 

ทภ.4 จัดลงนามโครงการสื่อสารเรื่องราว สถาบันพระมหากษัตริย์ 7 มหาวิทยาลัยในภาคใต้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ 6 รอบ

 

ที่สโมสรรื่นฤดี ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กองทัพภาคที่ 4 จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการสื่อสารเรื่องราวของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจริงและความรัก ร่วมกับ 7 มหาวิทยาลัยในภาคใต้

โดยมี พล.ท. ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 4 เป็นประธาน พร้อมด้วย อธิการบดีมหาวิทยาลัยในภาคใต้ (หรือผู้แทน) จำนวน 7 สถาบัน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, มหาวิทยาลัยสงขลา,มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะล

พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 4 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โดยพร้อมเพรียงกัน 

 

 

สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ เป็นพระราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา 4 ด้าน คือ การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง, มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ มีอาชีพ และการเป็นพลเมืองดี ทภ.4 และ ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 4 จึงได้นำพระราโชบายมาสู่การปฏิบัติ 

สำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.67 โดยบูรณาการความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา และศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 4 ในการขับเคลื่อนงานการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองที่ดี ปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

 

 

ตลอดจนมีความเสียสละและจิตอาสากระทำการเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตนให้กับเยาวชนในสถานศึกษา สร้างมวลชนในสถานศึกษาให้เป็นแกนนำถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ ส่งเสริมการมีแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ในการทำประโยชน์เพื่อสังคม และเป็นแบบอย่างที่ดีกับรุ่นน้องในลักษณะพี่สอนน้อง เสริมสร้างความรู้ความเป็นมาประวัติศาสตร์ชาติ ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีของไทยให้กับเยาวชน และประชาชนทั่วไป

มุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้ Active Learning ให้เยาวชนได้คิดและลงมือปฏิบัติ ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น นำองค์ความรู้ไปต่อยอดประยุกต์กับตนเองและผู้อื่น โดยให้ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนของหน่วยทหาร, นิสิต/นักศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ และ จิตอาสา 904 เป็นชุดวิทยากร

 

เพื่อเยาวชนคนรุ่นใหม่จะได้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต ต่อไป

 

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage