ตั้งสอบวินัยร้ายแรง ผอ.ปมอาหารกลางวันเด็ก ข้าวสวย ไข่ต้ม น้ำพริกตาแดง

 

สพฐ.สอบวินัยร้ายแรง ผอ.ปมอาหารกลางวันเด็ก ข้าวสวย ไข่ต้ม น้ำพริกตาแดง

 

จากกรณีเพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โพสต์ภาพอาหารกลางวัน ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นภาพถาดอาหารของนักเรียน ที่มีแค่ข้าวสวย และไข่ต้ม และ ถุงที่มีน้ำปลาใส่อยู่ ทำให้นักเรียนในโรงเรียนออกมาประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ใครเห็นต่าง สะเทือนใจ และตั้งคำถามว่า เด็กที่จะกลายเป็นอนาคตของชาติ ได้รับสารอาหารเท่านี้จริงหรือ?

 

ล่าสุด ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า  ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งนิติกร จากสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) ลงพื้นที่ และได้สั่งให้ผู้อำนวยการรายดังกล่าว ออกจากพื้นที่ มาประจำที่สพฐ. ขณะเดียวกัน ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และมีคำตอบต่อผู้อำนวยการโรงเรียนท่านนี้แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการคนนี้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นก่อน เพื่อให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐมีการสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด

 

ขณะที่ นายปารมี ไวจงเจริญ สส. พรรคก้าวไกล ได้นำเรื่องนี้เข้าไปตั้งกระทู้ถามในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา โดยฝากเรื่องนี้ไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า แนวนโยบายที่ตั้งเอาไว้ตอนเข้ามารับตำแหน่งว่า จะทำให้นักเรียน "เรียนดี มีความสุข" แต่ต้องเจอเรื่องน่าเจ็บปวดแล้วแบบนี้  นักเรียน "เรียนดี มีความสุข" ได้อย่างไร

 

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง กรณีโครงการอาหารกลางวัน ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกมาแล้ว พบความผิด 2 เรื่อง คือ

 

เรื่องแรก ผู้อำนวยการและคณะทำงานจัดอาหารไม่มีคุณภาพ และไม่เป็นไปตามหลักโภชนาการ

 

เรื่องที่ 2 คือ ขาดประสิทธิภาพในการบริหารงาน ทำให้เกิดความแตกแยกกันในสถานศึกษา

 

จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงอีกว่า การกระทำผิดของผู้อำนวยการครั้งนี้ เกิดจากเจตนาทุจริตหรือไม่ หากเข้าข่ายมีความผิด จะมีโทษ 2 สถาน คือ ปลดออก กับ ไล่ออก เนื่องจากเป็นเรื่องที่ร้ายแรง  

 

ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา ย้ำว่าการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จะสอบสวนควบคู่ไปกับหน่วยงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.  

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage