‘เพิ่มพูน’ ลั่น ‘ครู’ ไม่ต้องเข้าเวร ไร้ความผิด ประสาน ‘ตร.-มท.’ดูแล เรียบร้อยแล้ว

 

‘เพิ่มพูน’ ลั่น ‘ครู’ ไม่ต้องเข้าเวร ไร้ความผิดประสาน ‘ตร.-มท.’ดูแล เรียบร้อยแล้ว

 

24 มกราคม 2567 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารศธ. ว่า ที่ประชุมได้หารือกรณีที่ประชุมคระรัฐมนตรี (ครม.) มีมติยกเลิกการอยู่เวรที่โรงเรียน ของครูในสังกัด ศธ. ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) , สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)

 

รวมไปถึงหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ รวมถึงสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ  จากข้อมูลแม้จะมีกล้องวงจรปิด ก็ไม่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้

 

ดังนั้นการให้ครูอยู่เวรนอกเวลาราชการ ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยง ซึ่ง ครม.ได้พิจารณาถึงความเสียหายในชีวิตและร่างกายเป็นสำคัญ ที่จะต้องพยายามรักษาป้องกันไม่ให้เกิดภัยต่อชีวิตและร่างกายของครู ซึ่งครูมีภาระงานในการสอนหนังสืออยู่แล้ว

 

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า หลังครม.ยกเลิกมติเก่าดังกล่าวแล้ว ครม. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) และฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย(มท.) เข้ามาช่วยดูแล

 

ส่วนที่มีกระแสว่าเป็นการเพิ่มภาระให้ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะเป็นหน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองอยู่แล้วในการดูแลความสงบเรียบร้อย เช่น ธนาคาร ร้านทอง ที่ต้องมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลเป็นพิเศษ เพียงแต่อาจจะเพิ่มจุดเน้นเข้ามา ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของสถานที่  

 

ในส่วนของ ศธ. ได้มีหนังสือประสานไปยัง ตร. และ มท. เรียบร้อยแล้ว เพื่อบูรณาการดูแลความปลอดภัย ส่วนในระดับจังหวัดได้มอบหมายให้สำนักปลัด ศธ. แจ้งให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในการเข้ามาดูแล การประสานงานดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วขึ้น ทั้งในระดับ ส่วนกลาง และพื้นที่

 

ขณะที่ในส่วนของสถานศึกษาได้สั่งการให้มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา โดยให้มีการเชิญตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาหารือถึงมาตรการป้องกันความปลอดภัยให้กับสถานที่ราชการ เพื่อเป็นการรองรับมติครม.ดังกล่าว

 

“ส่วนเรื่องการอยู่เวร เมื่อ ครม.มีมติดังกล่าวออกมาแล้ว ครูที่ไม่อยู่เวรก็ถือว่าไม่มีความผิดทางวินัย เพราะได้รับการยกเว้นแล้ว จากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สพฐ. จะต้องไปปรับแก้ระเบียบต่าง ๆ เพื่อรองรับมติครม. หากครูจะมาทำงานที่โรงเรียนนอกเวลาราชการ ให้เป็นไปตามความสมัครใจ โดยขอให้ระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยส่วนบุคคลด้วย

 

เช่น เข้ามาในห้องทำงานแล้วก็ควรล็อกประตูให้เรียบร้อย หรือมีเพื่อนมาอยู่ด้วย เพราะเราห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งไม่มีสิ่งที่จะมาทดแทนได้ ไม่เหมือนความเสียหายต่อทรัพย์สิน ที่บางทียังหาทดแทนได้ จึงอยากให้ประชาชนได้เข้าใจ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว

 

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า มติดังกล่าว มีผลในทางปฏิบัติทันที โดยที่ผ่านมาได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษาอยู่แล้ว แต่เมื่อมีมติครม. เป็นสภาพบังคับหน่วยงานที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศก็จะต้องดำเนินการด้วยความเข้มข้นมากขึ้น นอกจากนี้จะมีการสำรวจโรงเรียนทั่วประเทศว่ามีกล้องวงจรปิดกี่แห่ง

 

ส่วนจะต้องเพิ่มกล้องวงจรปิดให้กับโรงเรียนที่ยังไม่มีหรือไม่นั้น ต้องหารือร่วมกับอีกครั้ง เพราะแม้จะมีกล้องวงจรปิด แต่การมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น

 

ขณะที่บางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต การมีกล้องวงจรปิดก็อาจไม่ได้ช่วยในการป้องกันเหตุ การดำเนินการดังกล่าว จะเป็นลักษณะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจเยี่ยม คล้ายโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคมและชุมชนที่จะต้องช่วยกันดูแลทรัพย์สินของส่วนรวม

 

“ส่วนการของบประมาณจัดจ้างธุรการ ภารโรง เพิ่มนั้น เป็นเรื่องที่ยังต้องดำเนินการต่อเพราะเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า โรงเรียนขนาดเล็กมีครูน้อย หากมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำเข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในโรงเรียน ก็จะเป็นการลดภาระครู คืนครูสู่ห้องเรียน เพื่อให้ครูสอนหนังสือได้เต็มที่ โดยตั้งเป้าว่าจะต้องมีธุรการ ภารโรงครบทุกโรงเรียน ซึ่งนายกฯ ก็รับปากว่า จะดูแลเรื่องนี้ให้” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage