เสมา 1 จี้สมศ.ประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา ต้องสะท้อนผลพัฒนา ไม่ใช่ตัดสินผ่านหรือไม่ผ่าน

 

เสมา 1 จี้สมศ.ประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาต้องสะท้อนผลพัฒนา ไม่ใช่ตัดสินผ่านหรือไม่ผ่าน

 

กรุงเทพฯ 21 พฤษภาคม 2567 - พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนการศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงศึกษาธิการ แก่ผู้บริหารเขตพื้นที่และสถานศึกษา นำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ที่จะทำอย่างไรให้ ผู้เรียน “เรียนดี มีความสุข” ปีการศึกษา 2567 ดังนี้

 

1. ด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา ให้คำนึงถึงสวัสดิภาพของนักเรียน ตั้งแต่เดินทางออกจากบ้าน เข้าสู่ประตูรั้วโรงเรียนจนออกจากโรงเรียน และเดินทางถึงบ้านพักนักเรียน

2. ด้านการเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น การจัดกิจกรรมเยี่ยมบ้าน กิจกรรมเสริมทักษะเพิ่มเติม เป็นต้น

3. ด้านเครือข่ายและการสร้างความร่วมมือ สถานศึกษาประสานเครือข่ายและสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต บูรณาการความร่วมมือการรู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กนักเรียน เป็นต้น

 

กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพนั้น จำเป็นต้องใช้หลักการบริหารจัดการ เช่นเดียวกับการบริหารหรือดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่ต้องมีการดำเนินงานให้เป็นระบบโดยมีขั้นตอนสำคัญ คือ การประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้ได้ข้อมูลย้อนกลับ อันจะสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้เพียงใด รวมถึงมีจุดอ่อนหรือปัญหาเรื่องใดบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อใวางแผนและการดำเนินงานระยะต่อไปบรรลุเป้าหมายอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ

 

สำหรับแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอก ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้มอบนโยบายให้ สมศ. ใช้รูปแบบการประเมินที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทให้ความสำคัญกับการประกันคุณภาพภายนอกเพื่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ และเป้าหมายของสถานศึกษา ที่เน้นสะท้อนภาพความเป็นจริง พร้อมให้ข้อเสนอแนะไม่ได้ประเมินเพื่อตัดสินผลว่าผ่านหรือไม่ผ่าน แต่มุ่งหวังให้เป็นการประเมินที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาและสร้างความเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาไปในทางที่ดีขึ้น

 

ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำให้ สมศ.พัฒนาศักยภาพผู้ประเมินภายนอกอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประเมินเป็นเสมือนตัวแทนของ สมศ.และให้ข้อเสนอแนะแก่สถานศึกษา จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อที่จะสามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ตรงกับบริบทของสถานศึกษา และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง

 

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ สมศ. เน้นย้ำกับผู้ประเมินภายนอก ให้ทำการประเมินคุณภาพผู้เรียน ที่สะท้อนผลลัพธ์ด้านคุณภาพ ให้ข้อเสนอแนะที่ปฏิบัติได้จริงเป็นรูปธรรม และสอดคล้องตามบริบทของสถานศึกษา เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษานำผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาได้อย่างแท้จริง

 

 

โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้มอบนโยบายให้ สมศ. ประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนก่อน เช่น โรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนขยายโอกาส เป็นต้น หากพบกรณีที่ผลการประเมินไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด จะต้องประเมินเพื่อติดตามผลการพัฒนาในรอบ 6 เดือน หรือรอบ 12 เดือน อีกครั้ง โดยต้องไม่สร้างภาระให้สถานศึกษาและครูเพิ่มเติม กล่าวคือ

 

1. ไม่ร้องขอให้สถานศึกษาจัดเตรียมเอกสารเพื่อรับการประเมิน โดยใช้ข้อมูลจากการทำงานปกติของสถานศึกษา ทั้งนี้ผู้ประเมินภายนอกอาจพิจารณาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติมได้จากเอกสารหรือไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ที่โรงเรียนมีอยู่แล้ว

2. ลดจำนวนวันในการประเมิน โดยสถานศึกษาแต่ละแห่งอาจได้รับการประเมินด้วยจำนวนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 1-3 วัน ตามบริบทของสถานศึกษา กรณีที่สถานศึกษามีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานอาจจะไม่ต้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม แต่ใช้วิธีการตรวจเยี่ยมแบบ Virtual Visit เช่นเดียวกับที่หน่วยงานประเมินในต่างประเทศดำเนินการ

3. ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการประเมินคุณภาพภายนอกตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ เริ่มตั้งแต่การจัดส่ง SAR ของสถานศึกษา การจัดเก็บข้อมูลและการจัดทำรายงานผลการประเมินการส่งรายงานผลการประเมินให้กับหน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษา

4. งดการจัดเตรียมพิธีการต้อนรับและการแสดงต่าง ๆ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาและเป็นภาระของสถานศึกษา รวมถึง งดรับของขวัญ ของที่ระลึกจากโรงเรียน เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและเกิดการประเมินที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา

 

หวังว่าการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. จะเป็นกระจกสะท้อนผลการจัดการศึกษาเพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้พัฒนาคุณภาพการการศึกษาของสถานศึกษา และประเทศโดยรวม

 

 

หากผู้ประเมินภายนอก ทำการประเมินคุณภาพภายนอกที่สะท้อนผลลัพธ์ด้านคุณภาพผู้เรียนให้ข้อเสนอแนะที่ปฏิบัติได้จริง เป็นรูปธรรม และสอดคล้องตามบริบทของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษานำผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาได้อย่างแท้จริง

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ 

https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage