สิริพงศ์” เผย พาเด็กตกหล่น เข้าเรียนแล้วกว่า 1.39 แสนคน!

 

สิริพงศ์” เผยพาเด็กตกหล่น

เข้าเรียนแล้วกว่า 1.39 แสนคน!

 

17 ก.ค. 67 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ ให้คณะทำงาน 25 จังหวัด เพื่อจัดทำแผนดำเนินงานร่วมกัน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด และ ภาคีเครือข่ายกว่า 250 คนเข้าร่วม ณ ศูนย์การประชุม อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี

 

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา 1,025,514 คน โดยจัดให้เป็นวาระแห่งชาติ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ให้กลายเป็นศูนย์ ใน 4 มาตรการสำคัญ “ค้นหา-ช่วยเหลือ-ส่งต่อ-ดูแล” เด็กและเยาวชน ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่

 

  • มาตรการค้นหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ผ่านการบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การค้นพบเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา
  • มาตรการติดตาม ช่วยเหลือ ส่งต่อ และดูแลเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนแต่ละรายอย่างเหมาะสม ทั้งด้านการศึกษา สุขภาวะ สภาพความเป็นอยู่ และสภาพสังคม
  • มาตรการจัดการศึกษาและเรียนรู้แบบยืดหยุ่น มีคุณภาพ และเหมาะสมกับศักยภาพของเด็กและเยาวชนแต่ละราย มีเป้าหมายให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาและการพัฒนาเต็มศักยภาพของตนเอง
  • มาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมจัดการศึกษาหรือเรียนรู้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหรือการเรียนรู้ในลักษณะ Learn to Earn

 

ทั้ง 4 มาตรการ กำลังดำเนินงาน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ ทุกจังหวัดโดย 11 หน่วยงาน ที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 67  ต้องเริ่มกระบวนการค้นหาและช่วยเหลือเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษาทั้งประเทศ โดยมีแอปพลิเคชัน “Thai Zero Dropout” สนับสนุนภารกิจ สำรวจค้นหา จัดทำแผนการดูแลรายบุคคล วางแผน ช่วยเหลือ และเชื่อมโยง ส่งต่อการช่วยเหลือทั้งระดับพื้นที่และระดับประเทศ รวมถึงการติดตามความก้าวหน้า

 

จากการติดตามข้อมูลเด็กและเยาวชนในระบบการศึกษาภาคเรียนที่ 1/2567 ของนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และองค์กรปกครองท้องถิ่น พบว่า จากตัวเลขเด็กนอกระบบการศึกษา 1,025,514 คน ณ วันที่ 30 พ.ย. 66 ในภาคเรียนที่ 1/2567 เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ได้กลับเข้าเรียนในระบบแล้วจำนวนทั้งสิ้น 139,690 คน คิดเป็นร้อยละ 13.6 ของเด็กนอกระบบการศึกษา

 

จำแนกเป็น

 

ข้าเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและอนุบาล จำนวน 109,850 คน (ร้อยละ 78.64)

ระดับชั้น ป.1-ป.3 จำนวน 14,585 คน (ร้อยละ 10.44)

ระดับชั้น ป.4-ป.6 จำนวน 3,599 คน (ร้อยละ 2.58)

ระดับชั้น ม.1-ม.3 จำนวน 6,823 คน (ร้อยละ 4.88) และ

ระดับชั้น ม.4-ม.6 รวม 4,833 คน (ร้อยละ 3.46)

 

นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับนโยบาย แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา เป็นอย่างมาก มีการประชุมความคืบหน้าเรื่องนี้ทุกสัปดาห์ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นั่งเป็นประธานคณะทำงานเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

 

เป็นโอกาสดีอย่างยิ่ง ที่มีคณะทำงานในระดับพื้นที่ตั้งแต่ระดับจังหวัดสู่ตำบล จากหลากหลายกลุ่มและหลายระดับที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาจาก 25 จังหวัด ที่จะเป็นกลุ่มแรกเริ่มต้นกระบวนการคันหา คัดกรอง เตรียมการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น

 

หากเราสามารถดึงเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ ให้กลับเข้าสู่การเรียนรู้จนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 3 ของ GDP อันเนื่องมาจากรายได้ตลอดชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังสามารถป้องกันปัญหาสังคมและอาชญากรรมอันเป็นผลพวงมาจากความยากจนได้

 

 

ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า สำหรับมาตรการขับเคลื่อน Thailand Zero Dropout เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา หรือได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ตามศักยภาพนั้น Roadmap ประกอบด้วย บันได 5 ขั้นในการทำงาน

 

การดำเนินงานของบันไดขั้นแรก ในปี 2567 จะเริ่มจาก 25 จังหวัดแรก ที่ดำเนินงานตามแนวคิดการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ของ กสศ. และโครงการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาเด็กนอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ของศธ. บันไดขั้นที่ 2 การติดตามช่วยเหลือเด็ก Dropout ได้เป็นรายบุคคล บันไดขั้นที่ 3 เด็กและเยาวชนกลับเข้าสู่การเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น มีทางเลือก บันไดขั้นที่ 4 เด็กและเยาวชนได้รับการส่งต่อผ่านหุ้นส่วนการศึกษา ตามแนวคิด All for Education และบันไดขั้นที่ 5 เด็กและเยาวชนเหล่านี้ จะเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ให้เติบโตต่อไป

 

ซึ่งหลังจากนั้นอีก 1 ปีให้หลังในวันที่ 10 พ.ย. 67 กระทรวงศึกษาธิการ กสศ. และ 11 หน่วยงานจะได้จัดทำข้อมูล เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของเด็กและเยาวชนที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง