ปิดฉาก สพฐ.เกมส์!คึกคัก สานฝันเยาวชนไทยก้าวสู่นักกีฬาอาชีพ


ปิดฉากลงอย่างงดงาม สำหรับการแข่งขันมหกรรมรวมกีฬา สพฐ.เกมส์ ระดับชาติ ประจำปี 2561 หลังจากฝ่าฟันกันมาตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับภาค จนถึงระดับชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความสามารถด้านทักษะกีฬา และพัฒนาสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ  

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดพิธีปิดการแข่งขัน พร้อมมอบโล่ เหรียญ และถ้วยรางวัล ให้กับนักกีฬาแต่ละประเภท ณ สนามกีฬาอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ได้รับเกียรติจาก พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะผู้บริหารระดับสูง เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการ คณะครูอาจารย์ และตัวแทนนักเรียนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมพิธีปิดอย่างคึกคัก 

พลเอกสุรเชษฐ์กล่าวว่า การจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศมหกรรมกีฬานักเรียนระดับชาติ “สพฐ.เกมส์ 2561” ใน 8 ประเภทกีฬา และสำหรับนักเรียนการศึกษาพิเศษอีก 2 ประเภทกีฬา ถือฤกษ์เอาวันกีฬาแห่งชาติเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะผลักดันสร้างทักษะความรู้ความสามารถทางด้านการกีฬาของเด็กนักเรียน ให้เป็นที่ประจักษ์ควบคู่ไปกับพัฒนาการด้านทักษะวิชาการที่สำคัญไม่แพ้กัน

การจัดการแข่งขันกีฬาจึงมิได้มุ่งหวังแพ้ชนะกันที่เหรียญรางวัลเท่านั้น หากแต่เป็นไปเพื่อให้เยาวชนไทยได้ค้นหาและเพิ่มพูนศักยภาพทักษะด้านกีฬาของตนเอง และรู้แนวทางที่จะพัฒนาไปสู่การพัฒนาเป็นอาชีพที่มั่นคงให้กับตนเองได้ในอนาคต นี่คือเจตจำนงของการจัดแข่งขันกีฬาในครั้งนี้

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มองถึงการมีพื้นที่สันทนาการร่วมกันของผู้ปกครองและบุตรหลาน หรือคนในชุมชนเดียวกัน ได้ใช้เวลาร่วมกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดี ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ห่างไกลจากโรคภัยและ สิ่งเสพติด

จึงได้ประสานหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดพื้นที่โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศให้เป็นพื้นที่ๆ ของชุมชนอย่างแท้จริง โดยเปิดให้ประชาชนสามารถเข้ามาใช้สนามกีฬาและโรงยิมฯในโรงเรียน และยังสนับสนุนอุปกรณ์ในการเล่นกีฬาให้ประชาชนด้วย

“มีโครงการรับโค้ชจิตอาสา หรือผู้นำกีฬาของชุมชน โดยเชิญชวนบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาเป็นโค้ชจิตอาสาสอนประชาชนในช่วงที่มาเล่นกีฬาในสถานศึกษา ซึ่งขณะนี้มีบุคคลที่มีความพร้อมสมัครเข้ามาเป็นโค้ชจิตอาสามากกว่า 80,000 รายแล้ว” รมช.ศธ.กล่าว

ด้าน ดร.บุญรักษ์กล่าวว่า การแข่งขันกีฬานักเรียนระดับชาติในชื่อ “สพฐ.เกมส์” จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้นักเรียนได้แสดงความสามารถด้านทักษะกีฬา พร้อมทั้งพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคม ป้องกันเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด และพัฒนาความสามารถด้านกีฬาสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพได้

โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนงานด้านการนำกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา ตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องการส่งเสริมการเรียนการสอนกีฬา

นอกเหนือจากโครงการ “สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้” และโครงการ “ห้องเรียนกีฬา” ที่ได้ดำเนินการมาอยู่ก่อนแล้ว ให้มีการจัดทำหลักสูตรเพิ่มเติมโดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหลักสูตรต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นวิชาเลือก วิชาเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของโรงเรียน จนนำไปสู่การยกระดับโครงการด้านการส่งเสริมการเรียนการสอนกีฬา

พันธกิจของ สพฐ.คือ การสร้างคนโดยไม่ได้มุ่งเน้นเพียงทักษะด้านวิชาการเท่านั้น แต่ต้องสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาเพื่อ เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติ จึงเป็นที่มาของการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนหลายต่อหลายโครงการของ สพฐ.

และสิ่งที่ สพฐ.มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งนั่นคือ การที่ผู้ปกครองทุกท่านตลอดจนประชาชนทุกภาคส่วน จะได้มีโอกาสในการร่วมชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมให้กับลูกหลาน รวมทั้งได้มีพื้นที่ส่วนกลางที่จะใช้ช่วงเวลาสันทนาการร่วมกันกับบุตรหลาน ผ่านกิจกรรมการเล่นกีฬาในพื้นที่โรงเรียนทั่วประเทศ

“เป็นแนวร่วมเดียวกับคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ดูแลบุตรหลานของเราให้ได้เติบโตเต็มศักยภาพ ห่างไกลจากสิ่งเสพติดและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ และเพื่อสร้างโอกาสความก้าวหน้าทางสาขาอาชีพที่เปิดกว้าง ส่งเสริมความสามารถที่โดดเด่นให้กับเขาเหล่านั้นได้ก้าวเดินบนเส้นทางอาชีพที่สร้างความสุขความเจริญให้กับตนเองและประเทศชาติต่อไป” ดร.บุญรักษ์กล่าว

สำหรับผลการแข่งขัน สพฐ.เกมส์ 2018 ระดับชาติ ครั้งที่ 1 ทั้งหมด 10 ประเภท ดังนี้ สรุปดังนี้ 1.ผลการแข่งขันฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมอุบลราชธานี รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดระยอง รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร

2.ผลการแข่งขันฟุตซอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดสงขลา รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดสมุทรปราการ, 3.ผลการแข่งขันบาสเกตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร  รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดนนทบุรี

4.ผลการแข่งขันบาสเกตบอลหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดนครปฐม รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดอ่างทอง, 5.ผลการแข่งขันวอลเลย์บอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดนครสวรรค์ ผลการแข่งขัน วอลเลย์บอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศทีม ได้แก่ ทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร

6.ผลการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดสุพรรณบุรี รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดนนทบุรี รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดศรีสะเกษ, 7.ผลการแข่งขันเซปักตะกร้อชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดกาฬสินธุ์ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดนครศรีธรรมราช รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะ เลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดมหาสารคาม 

      

8.ผลการแข่งขันคีตะมวยไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดลำพูน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดลำพูน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดตราด, 9.ผลการแข่งขันศิลปะแม่ไม้มวยไทยชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่  ทีมจังหวัดขอนแก่น รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดขอนแก่น รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดยะลา        

และ 10.ผลการแข่งขันศิลปะแม่ไม้มวยไทยหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดชัยภูมิ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดชัยภูมิรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมจังหวัดศรีสะเกษ                   

ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดผลการแข่งขันได้ที่ www.nation.obecgames.net