"กรมสุขภาพจิต" บำบัดโรคติดพนันบอล

              

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการดูแลช่วยเหลือครอบครัวและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากการพนันบอลโลกประจำปี 2561 ว่า ได้ให้โรงพยาบาลจิตเวชในสังกัด 19 แห่งใน 13 จังหวัด

คือที่ กทม.4 แห่ง เชียงใหม่ 2 แห่ง ขอนแก่น 2 แห่ง สุราษฎร์ธานี 2 แห่ง นครสวรรค์ เลย นครพนม อุบลราชธานี นครราชสีมา นนทบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว และสงขลา เปิดคลินิกบำบัดรักษาผู้ที่ติดพนันบอลที่แผนกผู้ป่วยนอก

และให้บริการปรึกษาทางสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง และปรึกษาทางระบบออนไลน์คือเฟซบุ๊กสายด่วนสุขภาพจิต1323-เลิกพนัน ในช่วงเวลา 14.30-22.30 น. ผู้ที่มีปัญหาสามารถขอรับบริการได้ฟรี

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า การพนันเป็นเกมที่ยั่วยุให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกได้มากไม่ว่าผู้เล่นจะอยู่ในสถานการณ์ได้หรือเสีย และเกิดการเสพติดได้ง่าย  ในการบำบัดรักษาผู้ที่ติดพนันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กรมสุขภาพจิตได้ใช้เทคนิคที่เรียกว่าการบำบัดแบบเสริมสร้างแรงจูงใจ(Motivational interviewing and Motivational Enhancement Therapy:MI &MET)

โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยาควบคู่กับการใช้ยา หัวใจหลักจะเน้นการกระตุ้นให้ผู้รับการบำบัดค้นหาเป้าหมายหรือแรงจูงใจภายในตนเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น การพูดคุยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเล่นการพนัน หรือผลดีที่จะเกิดขึ้นหากเลิกเล่นพนันได้ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมั่นว่า สามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ 

“โดยบำบัดทั้งหมด 4 ครั้ง ใช้เวลาครั้งละ 45-50 นาที   ทั้งนี้หากผู้รับการบำบัดได้รับกำลังใจจากครอบครัวหรือคนรอบข้างด้วย ก็จะเป็นแรงหนุนสำคัญทำให้ผลการรักษาได้ผลดี  สามารถเลิกเล่นการพนันได้สำเร็จและเร็วขึ้น”

ด้านแพทย์หญิงรัชนี ฉลองเกื้อกูล ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวเสริมว่า สถาบันฯได้เปิดคลินิกเลิกพนันตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา มีผู้รับบริการ 30 คน ส่วนใหญ่อายุ 30-39 ปี อาการติดพนันที่พบมากที่สุด 3 อาการ

ได้แก่ 1.มีความล้มเหลวในความพยายามที่จะควบคุมหรือเลิกเล่นการพนัน 2.มักจะกลับไปเล่นแก้มือเพื่อหวังเอาเงินที่เสียไปคืน และ 3.มีการใช้เงินเล่นการพนันต่อครั้งเพิ่มมากขึ้น เพื่อจะทำให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจเท่าเดิม 

โดยหลังจากได้รับการบำบัดฟื้นฟูแล้วพบว่าได้ผลดี มีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม จำนวนวันและจำนวนเงินที่เล่นการพนันลดลง ความเครียดลดลง  คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยมีผู้รับการบำบัดครบตามเกณฑ์ 4 ครั้ง จำนวน 24 คน 

แพทย์หญิงรัชนีกล่าวต่อว่า ในการป้องกันโรคติดการพนันโดยเฉพาะการพนันฟุตบอล มีข้อแนะนำ 5 ประการ ดังนี้ 1.ให้ตระหนักว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่ให้ความสนุกสนาน ควรหาโอกาสเล่นฟุตบอลจริงๆ ด้วย โดยเฉพาะเยาวชนจะได้รู้สึกถึงความสนุกสนานเพลิดเพลินจากการเล่นฟุตบอลจริงๆ และพยายามจะเอาชนะจากการเล่นเกมจริง แทนความรู้สึกสนุกจากการชมและอยากเอาชนะด้วยการพนันบอล 

2.ควรใช้ทักษะในการปฏิเสธพร้อมทั้งเดินหนีออกจากสถานการณ์เมื่อถูกชักชวนให้เล่นพนัน 3.หลีกเลี่ยงการสมาคมกับผู้ที่เล่นการพนันฟุตบอล 4.ไม่ทดลองเล่นการพนัน ไม่ว่าจะได้หรือเสีย เพราะจะมีส่วนกระตุ้นการหลั่งของสารสื่อประสาทโดปามีน อาจทำให้รู้สึกสนุกอิ่มเอมขณะเล่น ขณะเดียวกันอาจรู้สึกตึงเครียดและอยากเพิ่มปริมาณการเล่นมากยิ่งขึ้น

และ 5.หลีกเลี่ยงสิ่งยั่วยุต่างๆที่จะทำให้รู้สึกอยากจะเล่นการพนัน โดยเฉพาะการวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มความน่าจะเป็นของการแพ้-ชนะ โดยหากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เล่นการพนันด้วย ยิ่งเสี่ยงต่อการอยากลองเล่น  รวมถึงการทำนายผลแพ้ชนะจากสื่อต่างๆ ก็มีส่วนยั่วยุให้เกิดการเล่นการพนันฟุตบอลได้เช่นกัน

สำหรับโรคติดพนัน จะมีอาการปรากฏ 9 อาการ ดังนี้ 1.คิดหมกมุ่นอยู่กับการเล่นพนันตลอดเวลา 2.เล่นพนันโดยเพิ่มจำนวนเงินขึ้นเรื่อยๆ 3.เล่นเสียเป็นหนี้ก็ยังเล่นต่อหวังว่าจะได้เงินคืน 4.ยอมทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาใช้หนี้และเล่นพนัน 5.พูดปดปกปิดปัญหาที่ลุกลามจากการเล่นพนัน 6.มีปัญหากู้หนี้ยืมสินจนเสียหน้าที่การงาน 7.สูญเสียสัมพันธภาพกับคนในครอบครัวจากการเล่นพนัน 8. ใช้การพนันเป็นทางออกในการหนีปัญหา และ 9.ล้มเหลวทุกครั้งที่คิดจะลด–ละ- เลิกการพนัน      

จึงขอให้ประชาชนหรือเยาวชนตรวจสอบตนเอง หากมีความคิดและพฤติกรรมที่กล่าวมานี้ 2 ข้อขึ้นไป แสดงว่ามีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดพนัน ขอแนะนำให้รีบปรึกษาสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านหรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง