สวทช.จัดค่าย STEAM Summer Camp “เกษตรกรรุ่นจิ๋ว”


สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยฝ่ายวิชาการและกิจกรรมพัฒนาเยาวชนวิทยาศาสตร์ (AYS) จัดกิจกรรมค่าย STEAM Summer Camp: นวัตกรรมเพื่อการเกษตรยั่งยืน สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดเทอม และร่วมภารกิจเป็นเกษตรกรรุ่นจิ๋วกับเกษตรทฤษฎีใหม่ เรียนรู้วิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาไทย วาดฝันสู่นวัตกรรมการเกษตร

โดยมีนักเรียนชั้น ป.4-ป.6 เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 23 คน ระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2561 ณ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลกระแชง ศูนย์การเรียนรู้พอเพียงบ้านพ่อ จ.พระนครศรีอยุธยา และบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ นางฤทัย จงสฤษดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิชาการและกิจกรรมพัฒนาเยาวชนวิทยาศาสตร์ สวทช. เผยว่า ค่าย STEAM Summer Camp: นวัตกรรมเพื่อการเกษตรยั่งยืนครั้งนี้ เป็นค่ายแบบไปเช้า-เย็นกลับ จำนวน 3 วัน เป็นค่ายที่เน้นให้น้องๆ ได้ปฏิบัติจริง ไปดูชีวิตจริงว่าคนที่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่เขาทำนา เก็บไข่ไก่ เลี้ยงจิ้งหรีดว่าเป็นอย่างไร

เด็กๆ จะได้สัมผัสและลองใช้ชีวิตแบบเกษตรกร เรียนรู้และอยู่ร่วมกิจกรรมกับคุณลุงคุณป้าในชุมชน เป็นการเรียนรู้สภาพแวดล้อมใหม่ และได้คิดว่าจะสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ในอนาคตได้อย่างไร รวมถึงยังมีกิจกรรมสนุกๆ เกี่ยวกับวิถีชีวิตพอเพียง และกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์และการทดลอง ที่จะสร้างประสบการณ์ให้เด็กๆ ได้นำกลับไปอย่างเต็มที่

ซึ่งเป็นแนวทางส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านระบบ STEAM ที่ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ เห็นของจริง เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถนำพาไปสู่การเป็นนักประดิษฐ์และนักสร้างสรรค์นวัตกรรมในอนาคตได้

นางฤทัยกล่าวว่า วันแรกของกิจกรรม เด็กๆ ได้เดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้ตำบลกระแชง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กิจกรรมวันนี้เด็กๆ ได้ทดลองเป็นเกษตรกรรุ่นจิ๋ว ตั้งแต่การเก็บเห็ด ตกปลา เก็บไข่ เรียนรู้การเลี้ยงจิ้งหรีด ด้วยคำแนะนำของผู้ใหญ่บ้านและรองนายก อบต.กระแซง

โดยในการเก็บเห็ดนางฟ้าภูฐาน เด็กๆ ต้องเด็ดเห็ดออก แล้วเศษที่ค้างอยู่ในก้อนเชื้อเห็ด ต้องใช้หางช้อนแคะออกมาให้หมดเพื่อไม่ให้ปากก้อนเชื้อเห็ดเน่าและเกิดเป็นเชื้อรา ซึ่งเห็ดนางฟ้าภูฐานสามารถเก็บได้ทุกวันและหัวเชื้อหนึ่งจะมีอายุราวถึง 7 เดือน

ต่อด้วยกิจกรรมการห่อข้าวต้มมัด เด็กๆ ได้ร่วมทดลองห่อข้าวต้มมัดด้วยตนเอง ตั้งแต่การจับจีบใบตองห่อให้สวยๆ การใช้ตอกหรือเชือกมัดข้าวต้ม พร้อมร่วมลุ้นกับผลงานของตัวเองหลังจากเข้าซึ้งนึ่งข้าวต้มมัดผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง ได้ทานเป็นอาหารว่างยามบ่ายอย่างเอร็ดอร่อย

“ภารกิจของเด็กๆ กับการเป็นเกษตรกรรุ่นจิ๋วเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาไทยที่ศูนย์การเรียนรู้ตำบลกระแชง ยังดำเนินต่อไปด้วยพาหนะอย่างรถอีแต๋นที่นำเด็กๆ ไปร่วมกิจกรรมจิ้งหรีดมีมากกว่าที่เห็น ทำให้เด็กๆ ได้ทราบว่าไข่จิ้งหรีดที่นำมาเลี้ยงนั้น กว่าจะโตเป็นตัวจิ้งหรีดที่โตเต็มวัย ต้องใช้เวลาประมาณ 35-40 วัน ซึ่งสามารถนำไปขายเป็นอาหารและใช้เกี่ยวเป็นเหยื่อตกปลาได้”

นางฤทัยกล่าวด้วยว่า เด็กๆ ยังได้ร่วมสัมผัสและชมการเผาถ่านในชุมชน ที่มีการใช้เศษไม้ทั่วไปในพื้นที่ ซึ่งถ่านที่ได้ร้านหมูกระทะบริเวณนี้รับซื้อโดยตรงเพราะมีคุณภาพสูง ติดไฟง่าย และชมการเก็บไข่ไก่ และยังร่วมกิจกรรมการตกปลาในบริเวณชุมชนด้วย ถือเป็นการได้สัมผัสวิถีชีวิตของเกษตรกรอย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกๆ กิจกรรมที่ให้เด็กๆ ได้ร่วมนั้นล้วนเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชาวบ้านในชุมชนนอกเหนือจากการทำนาเป็นหลัก

นอกจากนี้ กิจกรรมภายในค่าย เด็กๆ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ศูนย์การเรียนรู้พอเพียงบ้านของพ่อ เพื่อทำกิจกรรมต้นไม้พืชผักสวนครัว กิจกรรมวิทยาศาสตร์กับอาหาร กิจกรรมภูมิปัญญาไทย

“ก่อนจะกลับมาปิดท้ายกันที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สวทช. กับการวาดฝันนวัตกรรมการเกษตรและร่วมละเล่นกิจกรรมของเล่นพื้นบ้าน นับเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดเทอม และเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาไทยไปพร้อมกัน” ผอ.อาวุโส ฝ่ายวิชาการและกิจกรรมพัฒนาเยาวชนวิทยาศาสตร์ สวทช.กล่าว