แซ่ด ศธ.หมดท่า!ยิ่งทวงเงิน“ธ.ออมสิน” กองทุน ช.พ.ค.!ยิ่งสูญ 1.1 หมื่นล้าน


จากกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในทำนองไร้ความสามารถในการติดตามทวงเงินบัญชีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ที่ธนาคารออมสินทยอยหักไปชำระหนี้แทนครูที่ขาดการชำระติดต่อกัน 3 งวด เนื่องจากผ่านมา 2 รัฐมนตรีว่าการ ศธ.แล้ว จำนวนเงินที่ธนาคารออมสินหักไปกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 9,600 ล้านบาท เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2560 เพิ่มขึ้นเป็น 11,000 ล้านบาท ในปัจจุบันนั้น

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ปัจจุบันมีครูเบี้ยวไม่ชำระหนี้ให้กับธนาคารออมสินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมหลายหมื่นคนแล้ว จากจำนวนครูที่กู้กว่า 4 แสนคน รวมวงเงินกู้กว่า 4 แสนล้านบาท เป็นลัทธิเอาอย่าง บางจังหวัดเช่นนครราชสีมา มีครูจำนวนมากเบี้ยวชำระมากถึง 700-800 ล้านบาท ซึ่ง ศธ.ยากที่จะให้ธนาคารออมสินเลิกหักเงินจากบัญชีกองทุนดังกล่าว เนื่องจากเป็นเงื่อนไขหลักประกันความเสี่ยงของระบบธนาคาร

“เท่าที่ทราบถ้าผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในอดีต ไม่ยอมทำข้อตกลงให้หักเงินบัญชีกองทุนดังกล่าวได้ ทางธนาคารออมสินก็จะไม่อนุมัติให้กู้เงิน โครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ก็จะไม่เกิด และจริงๆ แล้วเงินสมทบกองทุนนี้นั้น ธนาคารออมสินให้เป็นเงินตอบแทน สกสค.เพื่อพัฒนาองค์กร ขึ้นอยู่กับ สกสค.จะนำไปใช้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาก็นำไปใช้เป็นสวัสดิการครูจำนวนมาก ซึ่งทาง ศธ.ต้องเข้าใจเจตนาของการดำเนินโครงการนี้ด้วย ดังนั้น มีทางเดียวที่จะช่วยบรรเทาปัญหาหนี้สินครูได้ คือต้องไปจับมือกับธนาคารออมสิน หาวิธีทวงหนี้ครูที่เบี้ยวชำระ และหาทางทำข้อตกลงให้ธนาคารปรับโครงสร้างหนี้และลดดอกเบี้ย ให้ครูมีกำลังพอผ่อนชำระได้” นายสานิตย์กล่าว