สบส.ลุยตรวจ!คลินิกเสริมความงาม พบผิด กม.เต็มๆ 4 กระทง!


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ลุยตรวจในคลินิกเสริมความงาม ย่านรัตนาธิเบศร์ พบการกระทำผิดทั้งหมอเถื่อน และยาไม่ได้ขึ้นทะเบียน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาลรองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และพนักงานเจ้าหน้าที่จากกรม สบส. ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจสอบคลินิกเสริมความงามพรีมาแคร์คลินิกเวชกรรม (Premacare Clinic) ตั้งอยู่เลขที่ 38 ซอยรัตนาธิเบศร์ 28 ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่าผู้ให้บริการในคลินิกดังกล่าวเป็นหมอเถื่อน

นพ.ธงชัยให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบคลินิกเสริมความงามดังกล่าว พบว่าคลินิกแห่งนี้มีการขออนุญาตเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการเสริมความงามทั้งฉีดโบท็อกซ์, ฟิลเลอร์ และร้อยไหม โดยในขณะที่เข้าตรวจสอบไม่พบผู้ดำเนินการ แต่พบผู้ให้บริการจำนวน 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ให้บริการทั้ง 2 คน ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และยังพบสารโบท็อก คอลลาเจน และวิตามินซี ฯลฯ บางส่วนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. 

พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา 4 กระทงกับผู้กระทำผิด ได้แก่ 1.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ถือว่าเป็นหมอเถื่อน มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

3.จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 4.ผู้ดำเนินการปล่อยให้บุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์ทำการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสถานพยาบาล มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในส่วนของแพทย์จะส่งเรื่องหแพทยสภาพิจารณาดำเนินการต่อไป

ด้าน นพ.ภัทรพลกล่าวเสริมว่า การเสริมความงามเป็นสิทธิส่วนบุคคล การเสริมความงาม ทั้งการฉีดสารเสริมความงามต่างๆ หรือการผ่าตัดย่อมมีความเสี่ยงเฉพาะตัว ดังนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูล และผลกระทบก่อนตัดสินใจเลือกรับบริการทุกครั้ง โดยเฉพาะการศัลยกรรมที่มีการใช้ยาชา/ยาระงับความรู้สึก จะต้องกระทำโดยแพทย์เท่านั้น หากเป็นบุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์ย่อมเกิดอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนสามารถร่วมเป็นเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคในด้านระบบบริการสุขภาพ

หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด อาทิ คลินิกเถื่อน หมอเถื่อน หรือหมอกระเป๋าอย่างนิ่งดูดาย ให้แจ้งที่กรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2193-7000 ต่อ 18822 และ 18618 หรือทางเฟซบุ๊ก : สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข ในวันและเวลาราชการ แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อร่วมคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการในด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย