“SMART LAB มจธ.” เนื้อหอม!รับโจทย์วิจัยทางการแพทย์พุ่ง 100 เปอร์เซ็นต์


ผศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความเป็นสากล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและหลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าวัสดุทางการแพทย์จากต่างประเทศราว 95 เปอร์เซ็นต์  และมักมีราคาที่สูงเกินจริงไปมากกว่า 1,000 เท่า แต่จำเป็นต้องซื้อ เพื่อใช้รักษาคนไข้

แม้วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์บางอย่าง ประเทศไทยจะสามารถวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเองได้ก็ตาม ซึ่งส่วนหนึ่งยังมาจากปัญหาความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจจะต้องมีกระบวนการบางอย่างมาสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นทั้งกับแพทย์และคนไข้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลได้เห็นความสำคัญจากการที่ผลงานของนักวิจัยไทยไปได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากขึ้น ทำให้ล่าสุดรัฐบาลได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณ ภายใต้ข้อตกลงว่างานวิจัยนั้นจะต้องสามารถออกไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ในที่สุด

ซึ่งเป็นที่มาของการลงนาม “ข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาผลงานสิ่งประดิษฐ์ไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ระหว่างนักประดิษฐ์และผู้ประกอบการไทย” ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักวิจัยไทยอย่างยิ่ง และเป็นแรงกระตุ้นให้นักวิจัยเร่งผลิตผลงานที่คุณค่าต่อประเทศออกมามากขึ้น

สำหรับในส่วนงานวิจัยของสมาร์ทแล็บ มจธ.เอง ที่ผ่านมาได้ทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเซ็นเซอร์และวัสดุประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง ขณะเดียวกันก็ทำงานวิจัยด้านการแพทย์อยู่แล้วราว 50 เปอร์เซ็นต์ แต่มาระยะหลังมีโจทย์ทางการแพทย์หลั่งไหลเข้ามามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว และมีนักวิจัยเพิ่มขึ้นมากเป็นเท่าตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีนักวิจัยประมาณ 40 คน

ผลงานที่เป็นจุดเริ่มต้นคือ การค้นพบโลหะผสมจำรูป ซึ่งสามารถนำไปใช้แทนลวดสแตนเลสจัดฟันได้ดี มีประสิทธิภาพสูงกว่า ซึ่งนั่นทำให้สมาร์ทแล็บ มจธ.เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการแพทย์มากขึ้น และเริ่มแตกไลน์งานวิจัยทางด้านการแพทย์เพิ่มมากขึ้น

เฉพาะในช่วงปลายปี 2559 สมาร์ทแล็บ มจธ.ไปคว้ารางวัลระดับนาชาติมาแล้วถึง 6 รางวัล จากเวที 12th Taipei International Invention Show & Technomart” (INST 2016) กวาดมาได้ 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลเหรียญทอง ผลงานวิจัย “เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าแบบแคล๊งค์จากโลหะผสมจำรูป”, รางวัลเหรียญเงิน ผลงานวิจัย “การปรับปรุงประสิทธิภาพของวัสดุฝังในทางการแพทย์ด้วยกระบวนการ Fine Shot Peening (FSP)” (ได้รับรางวัล Special Prize จาก Association of Polish Inventors and Rationalizers, ประเทศโปแลนด์) และรางวัลเหรียญทองแดง ผลงานวิจัย “อุปกรณ์อุดรอยรั่วหัวใจจากวัสดุฉลาด” 

ส่วนงาน “10th  International Warsaw Invention Show” (IWIS 2016) ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ นักวิจัย มจธ.ได้รับอีก 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลเหรียญทอง ผลงานเรื่อง “ขดลวดค้ำยันชนิดดึงกลับจากวัสดุฉลาด” (ได้รับรางวัล Special Prize จาก Romanian Inventors Forum: FIR, ประเทศโรมาเนีย และ Association of Polish Inventors and Rationalizers, สาธารณรัฐโปแลนด์), รางวัลเหรียญเงิน ผลงานเรื่อง “การออกแบบอุปกรณ์รักษาโรคผมร่วงโดยใช้การกระตุ้นด้วยแสง” (ได้รับรางวัล Special Prize (On Stage) จาก Toronto International Society of Innovation & Advanced Skills: TISIAS, ประเทศแคนาดา) และรางวัลเหรียญทองแดง ผลงานเรื่อง “โลหะผสมไทเทเนียมสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์” (ได้รับรางวัล Special Prize จาก The First Institute of Inventors and Researchers of Iran: FIRI, สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน)         

นอกจากนี้ สมาร์ทแล็บ มจธ.ยังมีผลงานอื่นๆ ที่เตรียมออกสู่เชิงพาณิชย์อีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์หมวกรักษาโรคอัลไซเมอร์ด้วย LED เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม และอุปกรณ์การเคลื่อนกรามสำหรับรักษาผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผลงาน “การปรับปรุงประสิทธิภาพของวัสดุฝังในทางการแพทย์ด้วยกระบวนการ Fine Shot Peening (FSP)” หรือเหล็กดามกระดูกชนิดใหม่ ที่มีจุดเด่นหลักๆ คือ เราปลดเอาธาตุที่เป็นพิษต่อมนุษย์ออกทั้งหมด และใช้เทคโนโลยี FSP แบบเดียวกับที่ใช้ในการผลิตรถแข่งเฟอรารี่ หรือบิ๊กไบท์ ผลที่เกิดขึ้นคือ วัสดุมีความแข็งแรงทนทานต่อการเปลี่ยนรูปมากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทำให้เราสามารถผลิตเหล็กดามกระดูกที่มีขนาดบางลง และน้ำหนักเบาลง ช่วยให้แพทย์ผู้ผ่าตัดใช้งานได้ง่าย ผู้ป่วยรู้สึกไม่รำคาญ

และได้แก้ไขปัญหาอุปกรณ์หลุดหรือหลวมและหักในคนไข้ได้ โดยผ่านการทดสอบกับกระดูกอาจารย์ใหญ่มาแล้ว และอยู่ระหว่างการนำไปทดสอบในกระต่าย ก่อนจะขออนุมัติจากกรรมการจริยธรรม เพื่อให้แพทย์นำไปทดสอบในคนไข้จริง โดยคาดว่าไม่เกินปี พ.ศ.2561 จะสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้

ซึ่งผลงานวิจัยนี้ ไม่เพียงแต่เราจะได้วัสดุดามกระดูกที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อคนไข้เท่านั้น แต่จะทำให้ผู้ป่วยที่ใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรคสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายค่าวัสดุดามกระดูกนี้จากกรมบัญชีกลางได้อีกด้วย เนื่องจากราคาขายน่าจะถูกลงกว่าแบบเดิมกว่าครึ่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.063-249-6654