จากผลพวงความสำเร็จในความร่วมมือระหว่างสมาคมโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดแห่งประเทศไทย โดยกลุ่มโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ในการปฏิวัติการสอนของครูเป็นแบบ Active Learning ตามแนว Backward Design โดยใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps (จีแพส ไฟว์สเต็ป) ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางอิงมาตรฐานสากลในศตวรรษ 21

ซึ่งส่งผลทำให้นักเรียนในกลุ่มโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ  สามารถสอบ O-NET ปี พ.ศ.2559 ได้คะแนนเต็ม 100% จาก 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้หลักมากถึง 650 คน

กระทั่งล่าสุดคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการจัดการศึกษา สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มี พล.อ.พอพล มณีรินทร์ เป็นประธานอนุกรรมาธิการ ได้เข้ามาร่วมกับ สพฐ.จัดทำโครงการเพื่อศึกษาพัฒนาการฝึกอบรมครูสังกัด สพฐ. ในการปรับการสอนเป็นแบบ Active Learning ดังกล่าว โดยจัดนำร่องอบรมครู 4 โรงเรียน ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา จ.สงขลา โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น และโรงเรียนระยองวิทยาคม จ.ระยอง

มีทีมวิทยากรอบรมนำโดย ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหาร สถาบัน พว. ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการจัดการศึกษา สปท.ด้วย โดยใช้เวลารวม 2 วัน ในการฝึกอบรมครูผู้สอนทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยมีการนำฝึกภาคปฏิบัติการสอนรูปแบบ Active Learning ตามแนว Backward Design โดยใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps ดังกล่าว

และจากการประเมินผลสรุปว่า ครูผู้สอนทั้ง 4 โรงเรียนนำร่องดังกล่าว เห็นพ้องตรงกันว่า รูปแบบการสอนตามแนวทาง Active Learning ตามแนว Backward Design โดยใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ส่งผลต่อการเพิ่มคะแนน O-NET และระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนดีของนักเรียนได้จริง ที่สำคัญผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์คิดค้นนวัตกรรมชิ้นงานเองได้ทั้งในและนอกเวลาเรียน

ทั้งนี้ ดร.ศักดิ์สิน ในฐานคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการจัดการศึกษา สปท. เปิดเผยว่า ได้รับทราบว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการจัดการศึกษา สปท. ที่มี พล.อ.พอพลเป็นประธาน เตรียมจะขยายผลยกระดับการนำร่องปฏิวัติการสอนของครูดังกล่าว ไปในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งเขตประถมศึกษาและมัธยมศึกษาใน 4 ภูมิภาค ประมาณเดือนธันวาคม 2559 นี้ ดังนั้น ตนเชื่อว่าวิกฤตคุณภาพการศึกษาไทย จะแก้ไขได้ภายใน 3 ปีนี้