ผลประชุมบอร์ดคุรุสภา-สกสค.-องค์การค้าของ สกสค.ล่าสุด

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. เมื่อวันพุธที่ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาว่า ผลการประชุมคณะกรรมการคุรุสภามีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการในคุรุสภา 11 คณะ หลังจากที่ได้มอบให้นายกมล ศิริบรรณ รองปลัด ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ไปรวบรวมข้อมูลและพิจารณาถึงความจำเป็นเหมาะสมของคณะอนุกรรมการของคุรุสภาทั้ง 37 คณะเดิม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณารายงานข้อมูลและมีมติเห็นว่า ควรมีการปรับลดคณะอนุกรรมการที่ไม่มีความจำเป็นลง โดยได้ใช้วิธีการควบรวมคณะอนุกรรมการที่มีหน้าที่ใกล้เคียงกันเป็นชุดเดียวกัน ดังนั้น จึงเหลือคณะอนุกรรมการที่มีความจำเป็นอยู่เพียง 11 คณะ

สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการ สกสค. มีมติให้ปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการ สกสค. หรือบอร์ดบริหาร สกสค.ให้เหลือเพียง 9 ราย โดยที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับของสำนักงาน สกสค.เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ให้มีการปรับองค์ประกอบคณะกรรมการ สกสค.จาก 11 ราย ให้เหลือ 9 ราย และปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์จาก 11 ราย เหลือเพียง 9 รายด้วย ทั้งยังเห็นชอบให้มีการออกระเบียบสำนักงาน สกสค.ว่าด้วยการมอบอำนาจของเลขาธิการ สกสค.ให้กับผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เพื่อให้มีอำนาจลงนามธุรกรรมทางการเงินและการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องคดีความ

ในส่วนของข้อบังคับต่างๆ ได้มอบให้สำนักงาน สกสค.ศึกษาและตรวจสอบในรายละเอียดของข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการว่า ควรจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกหรือไม่ อย่างไร และให้นำกลับมาเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบกรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เข้ามาตรวจสอบเอกสารการเงิน การบัญชี การจัดซื้อจัดจ้าง และการดำเนินงานของสำนักงาน สกสค. ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2558 เป็นต้นไป โดยที่ประชุมได้เน้นย้ำให้สำนักงาน สกสค.อำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องเอกสารและหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

และสำหรับผลการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. ที่ประชุมมีมติให้จัดทำแผนฟื้นฟูองค์กร หลังจากได้รับรายงานจากนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.ว่า มีภาวะการขาดทุนสะสมมากถึง 4,200 ล้านบาท เกิดจากหนี้ในหลายทาง อาทิ เป็นลูกหนี้ของพนักงานในองค์กรเองจากการขึ้นเงินเดือนพนักงาน แต่ไม่ได้จ่ายเงินให้ และเป็นหนี้ค้างกับหน่วยงานต่างๆ เป็นต้น ที่ประชุมจึงได้มอบให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.ไปจัดทำแผนฟื้นฟูองค์กร เพื่อให้องค์กรกลับมาดำรงสภาพอยู่ได้ โดยเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงาน เชิญผู้มีความรู้ ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชนมาเข้าร่วม เพื่อให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะ และรายละเอียดการแก้ไขปัญหาในแต่ละเรื่อง เพื่อจัดทำเป็นแผนฟื้นฟูที่มีแนวทางและขั้นตอนอย่างชัดเจนในระยะ 1-3 ปีต่อจากนี้